เชื่อไหมครับว่า เมื่อก่อนนี้ ถ้าอยากได้หนังสือดีๆ สักเล่ม เราต้องออกไปตะลอนๆ หาตามร้านใหญ่ๆ บางทีก็ต้องรอสั่งจองเป็นอาทิตย์ กว่าจะได้ของ แต่เดี๋ยวนี้แค่ปลายนิ้วคลิก หนังสือเล่มไหนก็มาอยู่ในมือเราได้ง่ายๆ ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณ Amazon เลยครับ จากร้านขายหนังสือออนไลน์เล็กๆ ในโรงรถ วันนี้ Amazon กลายเป็นบริษัทระดับโลก ที่ไม่ได้ขายแค่หนังสือแล้วด้วย แต่ขายทุกอย่าง ตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบจริงๆ
ผมเองก็เป็นแฟนพันธุ์แท้ Amazon คนนึง ใช้บริการมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย จำได้ว่าตอนนั้นตื่นเต้นมาก ที่สั่งหนังสือเรียนจากอเมริกาได้โดยตรง แถมราคาถูกกว่าซื้อในไทยอีก พอมาทำงานก็ยิ่งได้ใช้บริการ Amazon บ่อยขึ้น ทั้งซื้อของใช้ส่วนตัว สั่งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือแม้แต่ดูหนังฟังเพลง Amazon ก็มีให้ครบจบในที่เดียว
แต่สิ่งที่น่าทึ่งกว่านั้นคือ Amazon ไม่ได้หยุดอยู่แค่การเป็นแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ แต่ยังขยายอาณาจักรธุรกิจไปไกลกว่านั้นมาก ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจคลาวด์คอมพิวติ้งอย่าง AWS ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจบันเทิง เรียกได้ว่า Amazon กำลังสร้าง “จักรวาลธุรกิจ” ของตัวเองขึ้นมาเลยทีเดียว
จากร้านหนังสือ สู่ยักษ์ใหญ่ E-commerce
ย้อนกลับไปในปี 1994 Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Amazon มองเห็นโอกาสในการขายหนังสือผ่านอินเทอร์เน็ต ในยุคที่คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้จัก E-commerce ด้วยซ้ำ เขาเริ่มต้นจากการขายหนังสือในโรงรถของตัวเอง ด้วยเงินลงทุนเพียง 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ใครจะไปคิดว่าจากจุดเริ่มต้นเล็กๆ นั้น Amazon จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด กลายเป็นเว็บไซต์ขายของออนไลน์อันดับหนึ่งของโลก
Amazon ประสบความสำเร็จได้อย่างไร? ผมมองว่ามีหลายปัจจัยครับ
- เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง: Amazon ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของลูกค้ามาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคา ความสะดวกสบาย ความรวดเร็วในการจัดส่ง หรือบริการหลังการขาย ทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ และกลับมาใช้บริการซ้ำแล้วซ้ำอีก
- ขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง: Amazon ไม่เคยหยุดนิ่ง มีการเพิ่มสินค้าและบริการใหม่ๆ อยู่เสมอ จากร้านหนังสือ ก็ขยายไปขายสินค้าทุกประเภท จนกลายเป็น “The Everything Store” อย่างที่เราเห็นกันทุกวันนี้
- ใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด: Amazon เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี นำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในการพัฒนาแพลตฟอร์ม และระบบต่างๆ เช่น ระบบแนะนำสินค้า ระบบชำระเงิน ระบบจัดการคลังสินค้า ฯลฯ
ก้าวสู่โลก Cloud Computing กับ AWS
นอกจากธุรกิจ E-commerce แล้ว Amazon ยังเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาด Cloud Computing ด้วยบริการ Amazon Web Services หรือ AWS ที่ให้บริการด้านโครงสร้างพื้นฐาน แพลตฟอร์ม และซอฟต์แวร์ แก่ธุรกิจต่างๆ ทั่วโลก
AWS เกิดขึ้นจากความต้องการภายในของ Amazon เอง ที่ต้องจัดการระบบ IT ขนาดใหญ่ เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ ต่อมา Amazon เล็งเห็นโอกาส จึงนำเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญด้านนี้ มาให้บริการแก่ลูกค้าภายนอก ปัจจุบัน AWS ครองส่วนแบ่งตลาด Cloud Computing มากที่สุดในโลก แซงหน้าคู่แข่งอย่าง Microsoft Azure และ Google Cloud Platform
โลจิสติกส์ หัวใจสำคัญของความสำเร็จ
อีกหนึ่งธุรกิจที่ Amazon ให้ความสำคัญไม่แพ้กันคือ ธุรกิจโลจิสติกส์ เพราะการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ เป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจ E-commerce Amazon ลงทุนมหาศาล ในการพัฒนาเครือข่ายโลจิสติกส์ของตัวเอง ทั้งคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า ระบบขนส่ง และเทคโนโลยีต่างๆ เช่น หุ่นยนต์ โดรน ฯลฯ
Amazon Prime บริการสมาชิกแบบพรีเมียม ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญ ที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจโลจิสติกส์ สมาชิก Amazon Prime จะได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย เช่น การจัดส่งสินค้าฟรี ส่วนลดพิเศษ และสิทธิ์เข้าถึงบริการต่างๆ ของ Amazon เช่น Amazon Prime Video Amazon Music ฯลฯ
บันเทิง อาณาจักรใหม่ของ Amazon
Amazon ไม่ได้หยุดอยู่แค่การขายของ และให้บริการด้านเทคโนโลยี แต่ยังรุกเข้าสู่ธุรกิจบันเทิงอย่างเต็มตัว ด้วยบริการสตรีมมิ่ง Amazon Prime Video ที่ให้บริการรับชมภาพยนตร์ ซีรีส์ และรายการต่างๆ Amazon ยังลงทุนสร้างภาพยนตร์ และซีรีส์ของตัวเอง เช่น The Lord of the Rings: The Rings of Power ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
นอกจากนี้ Amazon ยังมีธุรกิจอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ธุรกิจร้านค้าปลีกแบบออฟไลน์ Amazon Go ธุรกิจอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ Kindle Echo Fire TV ธุรกิจเกม Twitch และธุรกิจด้านสุขภาพ PillPack
มองอนาคต Amazon
Amazon ยังคงเดินหน้าพัฒนา และขยายธุรกิจอย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยวิสัยทัศน์ที่ต้องการเป็น “บริษัทที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางมากที่สุดในโลก” ผมเชื่อว่า Amazon จะยังคงเป็นผู้นำในธุรกิจ E-commerce Cloud Computing และโลจิสติกส์ และจะเติบโตในธุรกิจบันเทิง และธุรกิจอื่นๆ ต่อไปอีกนาน
Amazon เป็นตัวอย่างของบริษัทที่ประสบความสำเร็จ จากการมองการณ์ไกล กล้าที่จะลงทุน และไม่หยุดพัฒนา ผมเชื่อว่า Amazon จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการ และธุรกิจต่างๆ ในการสร้างสรรค์นวัตกรรม และเติบโตอย่างยั่งยืน ต่อไปในอนาคต