วันนี้ผมจะพาทุกคนไปสำรวจโลกของ Fintech หรือ Financial Technology นวัตกรรมทางการเงินที่กำลังปฏิวัติโลกของเราอย่างรวดเร็ว มันไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยีใหม่ ๆ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วน ตั้งแต่การใช้ชีวิตประจำวันของเรา ไปจนถึงโครงสร้างของอุตสาหกรรมทางการเงินโลก
Fintech คืออะไร?
Fintech ก็คือการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับบริการทางการเงิน ทำให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น [[1]](https://www.investopedia.com/terms/f/fintech.asp)] หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับคำนี้กันมาบ้างแล้ว แต่รู้ไหมครับว่า Fintech นั้นกว้างขวางกว่าที่คิด มันครอบคลุมตั้งแต่การโอนเงินผ่านมือถือ การลงทุนออนไลน์ ไปจนถึงการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการวิเคราะห์สินเชื่อ
จุดเริ่มต้นของ Fintech
ถ้าจะพูดถึงจุดเริ่มต้นของ Fintech จริง ๆ เราอาจต้องย้อนกลับไปถึงยุคที่เริ่มมีการใช้บัตรเครดิตเลยทีเดียว แต่ในยุคปัจจุบัน Fintech เริ่มเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในช่วงหลังวิกฤตการณ์ทางการเงินปี 2008 [[2]]([invalid URL removed]) ตอนนั้นความเชื่อมั่นในสถาบันการเงินดั้งเดิมลดลง ผู้คนเริ่มมองหาทางเลือกใหม่ ๆ ที่โปร่งใสและไว้ใจได้มากขึ้น ประกอบกับเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟนที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด Fintech จึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้
กระแส Fintech ที่กำลังมาแรง
ตอนนี้ Fintech กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีหลายเทรนด์ที่น่าจับตามอง ผมจะขอยกตัวอย่างเทรนด์เด่น ๆ ที่กำลัง disrupt โลกการเงินดังนี้:
1. Mobile Payments (การชำระเงินผ่านมือถือ)
การชำระเงินผ่านมือถือ หรือ Mobile Payments กลายเป็นเรื่องธรรมดาในชีวิตประจำวันของเราไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงินผ่านแอปธนาคาร การสแกน QR Code จ่ายค่าสินค้า หรือการใช้ e-Wallets ต่าง ๆ อย่าง TrueMoney Wallet (truemoney.com), Rabbit LINE Pay (line.me/th/pay), ล้วนเป็นการใช้เทคโนโลยีมาช่วยให้การจ่ายเงินสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยยิ่งขึ้น
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือในประเทศจีนที่การใช้เงินสดแทบจะหายไปแล้ว ประชาชนหันมาใช้ Alipay (alipay.com) และ WeChat Pay (pay.weixin.qq.com) กันอย่างแพร่หลาย แม้แต่ร้านค้าเล็ก ๆ ริมถนนก็ยังรับชำระเงินผ่าน QR Code กันทั้งนั้น
2. Digital Banking (ธนาคารดิจิทัล)
ธนาคารดิจิทัล หรือ Digital Banking คือการให้บริการทางการเงินผ่านช่องทางออนไลน์ โดยไม่ต้องพึ่งพาสาขาแบบดั้งเดิม เราสามารถทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้อย่างครบวงจรผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ ตั้งแต่การเปิดบัญชี โอนเงิน ชำระบิล ไปจนถึงการขอสินเชื่อ
ธนาคารดิจิทัลหลายแห่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น K PLUS ของธนาคารกสิกรไทย ([invalid URL removed]) , SCB EASY ของธนาคารไทยพาณิชย์ (scb.co.th), และ TMRW ของธนาคาร UOB (uob.co.th) ซึ่งธนาคารเหล่านี้ต่างแข่งขันกันนำเสนอบริการที่ทันสมัยและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่
3. Blockchain (บล็อกเชน)
Blockchain เป็นเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ที่โปร่งใสและยากต่อการปลอมแปลง หลายคนอาจจะรู้จัก Blockchain จาก Bitcoin (bitcoin.org) ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลสกุลแรกของโลก แต่จริง ๆ แล้ว Blockchain มีศักยภาพในการประยุกต์ใช้กับอุตสาหกรรมอื่น ๆ ได้อีกมากมาย รวมถึงภาคการเงินด้วย [[3]](https://www.ibm.com/topics/what-is-blockchain)
ตัวอย่างเช่น การใช้ Blockchain ในการโอนเงินระหว่างประเทศ ซึ่งสามารถทำได้รวดเร็วและมีค่าธรรมเนียมต่ำกว่าการโอนเงินผ่านธนาคารแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ Blockchain ยังสามารถใช้ในการสร้างระบบการยืนยันตัวตนที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือได้อีกด้วย
4. Insurtech (เทคโนโลยีประกันภัย)
Insurtech คือการนำเทคโนโลยีมาใช้ในธุรกิจประกันภัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ตัวอย่างเช่น การใช้ AI ในการวิเคราะห์ความเสี่ยงและกำหนดเบี้ยประกัน การใช้ Chatbot ในการตอบคำถามและให้บริการลูกค้า การใช้ Telematics ในการเก็บข้อมูลการขับขี่รถยนต์เพื่อนำมาคำนวณเบี้ยประกันตามพฤติกรรมการขับขี่
5. RegTech (เทคโนโลยีกำกับดูแล)
RegTech คือการนำเทคโนโลยีมาช่วยให้สถาบันการเงินสามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น การใช้ AI ในการตรวจสอบธุรกรรมที่ผิดปกติเพื่อป้องกันการฟอกเงิน การใช้ Machine Learning ในการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลเพื่อระบุความเสี่ยงด้านการกำกับดูแล
โอกาสการลงทุนใน Fintech
Fintech ไม่เพียงแต่สร้างความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภค แต่ยังสร้างโอกาสการลงทุนใหม่ ๆ อีกด้วย นักลงทุนสามารถลงทุนใน Fintech ได้หลายวิธี เช่น
1. การลงทุนในสตาร์ทอัพ Fintech
การลงทุนในสตาร์ทอัพ Fintech เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง แต่ก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงเช่นกัน นักลงทุนสามารถลงทุนผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น Angel Investors, Venture Capital, หรือ Crowdfunding [[4]](https://www.cbinsights.com/research/report/fintech-trends-q1-2023/)
2. การลงทุนในกองทุนรวมที่เน้นลงทุนใน Fintech
ปัจจุบันมีกองทุนรวมหลายกองทุนที่เน้นลงทุนในบริษัท Fintech ทั่วโลก การลงทุนในกองทุนรวมเป็นการกระจายความเสี่ยงและเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ไม่มีเวลาติดตามข่าวสารของบริษัท Fintech แต่ละแห่ง
3. การลงทุนในหุ้นของบริษัทเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ Fintech
นักลงทุนสามารถลงทุนในหุ้นของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Fintech เช่น Visa (visa.com), Mastercard (mastercard.com), PayPal (paypal.com) ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านการชำระเงินระดับโลก
อนาคตของ Fintech
Fintech ยังคงมีศักยภาพในการเติบโตอีกมากในอนาคต เทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI), Machine Learning, Big Data, และ Internet of Things (IoT) จะถูกนำมาประยุกต์ใช้กับบริการทางการเงินมากขึ้น เราจะได้เห็นนวัตกรรมทางการเงินใหม่ ๆ ที่ล้ำสมัยและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้นอย่างแน่นอน
บทสรุป
Fintech กำลังเปลี่ยนแปลงโลกการเงินของเราอย่างรวดเร็ว มันไม่ใช่แค่เทรนด์ชั่วคราว แต่เป็นการปฏิวัติครั้งใหญ่ที่จะส่งผลกระทบต่อเราทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้บริโภค นักลงทุน หรือผู้ประกอบการ การทำความเข้าใจ Fintech และติดตามเทรนด์ใหม่ ๆ อยู่เสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะโลกการเงินในอนาคตจะแตกต่างจากปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง และผู้ที่ปรับตัวได้เร็วที่สุดเท่านั้นที่จะเป็นผู้ชนะในยุคแห่ง Fintech นี้