– แรงกดดันเงินฝืดในจีนส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย เนื่องจากความต้องการสินค้าจากจีนลดลงอย่างต่อเนื่อง
– ความชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีนเป็นความเสี่ยงที่อาจลดการลงทุนและความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างจีนและไทย
– นักลงทุนควรจับตาความเปลี่ยนแปลงในตลาดหุ้นไทย เนื่องจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจจีนอาจสร้างความผันผวนในตลาดทุนไทย
ภาวะเงินฝืดที่ยังคงดำเนินต่อไปในจีนในเดือนสิงหาคม 2568 ส่งผลให้ดัชนีราคาผู้บริโภคลดลงอีกครั้ง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทั้งในจีนและตลาดโลก หนึ่งในผลกระทบที่เห็นได้ชัดต่อเศรษฐกิจไทยคือการส่งออกที่อาจชะลอตัวลง เนื่องจากจีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของไทย โดยในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2568 ไทยมีการขาดดุลการค้ากับจีนสูงถึง 768,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา การชะลอตัวทางเศรษฐกิจและภาวะเงินฝืดในจีนจึงส่งผลกดดันให้ความต้องการสินค้าจากไทยลดลง นอกจากนี้ ภาคการลงทุนระหว่างจีนและไทยก็เผชิญความเสี่ยงโดยนักลงทุนจีนอาจชะลอการลงทุนในโครงการต่างๆ ในไทย ขณะที่นักลงทุนไทยเองก็ต้องระมัดระวังความผันผวนจากความไม่แน่นอนในตลาดทุนจีน ส่วนตลาดหุ้นไทยอาจได้รับผลกระทบจากความผันผวนนี้เช่นกัน โดยเฉพาะในกลุ่มหุ้นที่มีความสัมพันธ์กับจีนอย่างใกล้ชิด ด้านโอกาสและความเสี่ยงสำหรับไทย คงต้องจับตาการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมทั้งในด้านนโยบายการค้าและการเพิ่มความหลากหลายในตลาดส่งออกเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก ภาพรวมนี้สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าปัจจัยทางเศรษฐกิจของจีนยังคงเป็นตัวแปรสำคัญต่อเสถียรภาพและการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในอนาคต
คำชี้แจง
เนื้อหาบนเว็บไซต์นี้สร้างขึ้นโดย ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และได้รับการตรวจสอบความถูกต้องจากระบบ AI ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลและงานวิจัยล่าสุดแบบ Real-time อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลในการทำความเข้าใจข้อมูลทุกครั้ง ไม่ว่าเนื้อหานั้นจะถูกสร้างโดยมนุษย์หรือ AI ก็ตาม
ทีมงาน NowTrd.com มุ่งมั่นที่จะใช้ AI เป็นเครื่องมือเพื่อมอบข้อมูลที่มีคุณภาพและสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนแก่ผู้อ่านทุกท่านอย่างมีความรับผิดชอบต่อความถูกต้อง หากพบข้อผิดพลาดหรือจุดบกพร่องใดๆ โปรดแจ้งให้เราทราบที่ [email protected] เพื่อร่วมพัฒนาเนื้อหาให้ดียิ่งขึ้น
ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจ