– ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เสนอให้สหภาพยุโรปเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนและอินเดียสูงถึง 100% เพื่อเพิ่มแรงกดดันต่อรัสเซียและประธานาธิบดีปูตินให้ยุติสงครามในยูเครน
– จีนและอินเดียเป็นผู้ซื้อหลักน้ำมันรัสเซีย ซึ่งยังช่วยรักษาเศรษฐกิจรัสเซียให้เดินหน้าต่อไปได้ การจำกัดการค้าระหว่างประเทศนี้จึงมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก รวมถึงไทยที่มีความสัมพันธ์ทางการค้ากับจีนและอินเดีย
– นโยบายภาษีของทรัมป์ต่อกลุ่มประเทศเหล่านี้จะส่งผลถึงความสัมพันธ์ทางการค้าและซัพพลายเชนระดับโลก โดยเฉพาะในช่วงที่ไทยพึ่งพาการส่งออกและการนำเข้าจากจีนและอินเดียอยู่มาก
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เรียกร้องให้สหภาพยุโรป (EU) ใช้มาตรการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนและอินเดียในอัตราสูงถึง 100% เพื่อเพิ่มแรงกดดันทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียและประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ให้ยุติสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ในยูเครน แหล่งข่าวที่รู้ข้อมูลจากการหารือระบุว่าข้อเสนอนี้เกิดขึ้นในระหว่างการประชุมระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและสหภาพยุโรป ซึ่งหารือถึงแนวทางเพิ่มแรงกดดันทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย
จีนและอินเดียปัจจุบันเป็นผู้ซื้อหลักของน้ำมันรัสเซีย ซึ่งเป็นรายได้สำคัญที่ช่วยรักษาเศรษฐกิจรัสเซียให้ดำเนินต่อไปได้ ทรัมป์จึงมองว่าการเรียกเก็บภาษีนำเข้าที่รุนแรงขึ้นกับประเทศเหล่านี้จะช่วยลดการสนับสนุนทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย
สำหรับประเทศไทย นโยบายนี้ส่งผลในวงกว้างเพราะไทยมีความเกี่ยวข้องทางการค้ากับจีนและอินเดียอย่างใกล้ชิด โดยทั้งสองประเทศเป็นคู่ค้าหลักของไทยในหลายด้าน รวมถึงการส่งออกและนำเข้าสินค้า การเพิ่มภาษีสินค้านำเข้าจากจีนและอินเดียอาจส่งผลต่อราคาสินค้าและซัพพลายเชนในไทย นอกจากนี้ยังเป็นสัญญาณของความตึงเครียดในการค้าระหว่างประเทศที่อาจมีผลต่อเศรษฐกิจไทยในภาพรวม
อย่างไรก็ตาม การที่สหภาพยุโรปจะตอบรับข้อเสนอนี้หรือไม่นั้นยังเป็นปัจจัยสำคัญ เนื่องจาก EU เองพยายามลดการพึ่งพาแหล่งพลังงานของรัสเซียและยังคงเน้นที่มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียโดยไม่เน้นการเก็บภาษีนำเข้าเหมือนที่ผ่านมา
ด้านการเมืองระหว่างประเทศ ทรัมป์ยังเตรียมพูดคุยกับผู้นำรัสเซียในเร็วๆ นี้ โดยหวังว่าจะสามารถเจรจาหาทางออกสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนได้ แม้ว่าสถานการณ์บนสนามรบจะยังคงรุนแรงและเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
ข่าวนี้ตอกย้ำความซับซ้อนของสงครามและผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก รวมถึงความเชื่อมโยงที่สำคัญระหว่างสหรัฐ ยุโรป จีน อินเดีย และประเทศไทยในเวทีการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งผู้คนในไทยควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
คำชี้แจง
เนื้อหาบนเว็บไซต์นี้สร้างขึ้นโดย ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และได้รับการตรวจสอบความถูกต้องจากระบบ AI ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลและงานวิจัยล่าสุดแบบ Real-time อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลในการทำความเข้าใจข้อมูลทุกครั้ง ไม่ว่าเนื้อหานั้นจะถูกสร้างโดยมนุษย์หรือ AI ก็ตาม
ทีมงาน NowTrd.com มุ่งมั่นที่จะใช้ AI เป็นเครื่องมือเพื่อมอบข้อมูลที่มีคุณภาพและสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนแก่ผู้อ่านทุกท่านอย่างมีความรับผิดชอบต่อความถูกต้อง หากพบข้อผิดพลาดหรือจุดบกพร่องใดๆ โปรดแจ้งให้เราทราบที่ [email protected] เพื่อร่วมพัฒนาเนื้อหาให้ดียิ่งขึ้น
ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจ