– ศาลสหรัฐฯ สั่งชั่วคราวห้ามประธานาธิบดีทรัมป์สั่งปลดลิซ่า คุก ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เพื่อปกป้องความเป็นอิสระของธนาคารกลาง
– กรณีนี้เป็นคดีแรกที่ทดสอบความเป็นอิสระของธนาคารกลางในการกำหนดนโยบายดอกเบี้ยโดยไม่ถูกรัฐแทรกแซงและอาจมีผลกระทบต่อตลาดทุนทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นและอัตราดอกเบี้ยในไทย
– สถานการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนการประชุม Fed รอบถัดไปซึ่งคาดว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกตั้งแต่กันยายน 2024 ซึ่งจะมีผลกระทบต่อตลาดการเงินและเศรษฐกิจไทยโดยตรง
เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2025 ศาลแขวงสหรัฐฯ ได้มีคำสั่งชั่วคราวห้ามไม่ให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ปลด นางลิซ่า คุก ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve หรือ Fed) จากตำแหน่งซึ่งเป็นความพยายามที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในการต่อสู้ทางกฎหมายที่ทดสอบความเป็นอิสระของธนาคารกลางในการกำหนดนโยบายการเงินโดยไม่ถูกรัฐแทรกแซง นางลิซ่า คุก ซึ่งได้รับการรับรองจากวุฒิสภา เป็นหนึ่งในคณะกรรมการของ Fed ที่มีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ประเด็นข้อพิพาทเกิดขึ้นเมื่อทรัมป์อ้างว่า นางคุกมีความผิดเกี่ยวกับการยื่นเอกสารสินเชื่อบ้าน ซึ่งเธอได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา และนางคุกได้ยื่นฟ้องประธานาธิบดีในข้อหาคำสั่งปลดนี้เป็น “ผิดกฎหมายและโมฆะ” ศาลแขวงย้ำว่าการปลดผู้ว่าการ Fed ต้องมี “เหตุผลสมควร” เท่านั้นและเหตุผลนั้นต้องเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ขณะดำรงตำแหน่ง ไม่ใช่เหตุผลจากการกระทำในอดีตก่อนเข้ารับตำแหน่ง
คำตัดสินนี้มีความสำคัญมากเพราะเป็นครั้งแรกที่ศาลต้องพิจารณาคดีเกี่ยวกับความเป็นอิสระของ Fed ซึ่งมีผลโดยตรงต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและตลาดเงินทั่วโลก รวมถึงตลาดการเงินในประเทศไทยด้วย โดยในเวลานี้ทาง Fed กำลังจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกตั้งแต่เดือนกันยายน 2024 การเคลื่อนไหวนี้จะส่งผลต่อการกู้ยืมและการลงทุนในตลาดทั่วโลก รวมถึงภาคธุรกิจและผู้บริโภคในไทยที่ได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยและนโยบายการเงินของสหรัฐฯ
นอกจากนี้กรณีนี้ยังชี้ให้เห็นว่าความสัมพันธ์ทางการเมืองและนโยบายทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่มีต่อไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงมีความซับซ้อนและมีผลกระทบโดยตรงต่อการค้าระหว่างประเทศและการเคลื่อนไหวของตลาดทุนในภูมิภาค
การตัดสินใจของศาลครั้งนี้จึงถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการรักษาความเป็นอิสระของสถาบันการเงินของสหรัฐฯ และเป็นกรณีศึกษาที่สำคัญซึ่งผู้ที่ติดตามข่าวสารด้านเศรษฐกิจควรจับตาดูอย่างใกล้ชิดต่อไป
คำชี้แจง
เนื้อหาบนเว็บไซต์นี้สร้างขึ้นโดย ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และได้รับการตรวจสอบความถูกต้องจากระบบ AI ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลและงานวิจัยล่าสุดแบบ Real-time อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลในการทำความเข้าใจข้อมูลทุกครั้ง ไม่ว่าเนื้อหานั้นจะถูกสร้างโดยมนุษย์หรือ AI ก็ตาม
ทีมงาน NowTrd.com มุ่งมั่นที่จะใช้ AI เป็นเครื่องมือเพื่อมอบข้อมูลที่มีคุณภาพและสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนแก่ผู้อ่านทุกท่านอย่างมีความรับผิดชอบต่อความถูกต้อง หากพบข้อผิดพลาดหรือจุดบกพร่องใดๆ โปรดแจ้งให้เราทราบที่ [email protected] เพื่อร่วมพัฒนาเนื้อหาให้ดียิ่งขึ้น
ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจ