คุณเคยสังเกตไหมว่าเวลาราคาหุ้นหรือฟอเร็กซ์เคลื่อนไหว มันมักจะหยุดพักหรือเปลี่ยนทิศทางในบางจุดที่ดูเหมือนจะเป็นแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญ? สำหรับผม การรู้จักเข้าใจและใช้งาน Fibonacci Retracement ถือเป็นกุญแจดอกหนึ่งที่เปิดประตูสู่การเทรดที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับเทรดเดอร์ไทยอย่างเราๆ ที่ต้องการจับจังหวะการเข้าซื้อหรือขายได้ถูกต้องและลดความเสี่ยงในตลาดที่ผันผวนนี้
ก่อนอื่นเลยนะครับ Fibonacci Retracement คืออะไร? มันคือเครื่องมือในทางเทคนิคที่ช่วยให้เราเห็นระดับราคาที่อาจเกิดการกลับตัวของราคา โดยจะลากเส้นจากจุดสูงสุดถึงจุดต่ำสุดของราคาที่เคลื่อนไหวในช่วงใดช่วงหนึ่ง แล้วหารความต่างราคานั้นด้วยอัตราส่วนที่เรียกว่าอัตราส่วนฟีโบนัชชี ซึ่งประกอบด้วย 23.6%, 38.2%, 50%, 61.8% และ 100% เส้นเหล่านี้จะทำหน้าที่เหมือนแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ
แต่ทำไมต้องเป็น Fibonacci? เหตุผลมันอยู่ที่ธรรมชาติของตัวเลขฟีโบนัชชีที่พบในธรรมชาติและตลาดการเงินจำนวนมาก เป็นค่าที่บอกให้เรารู้ว่าราคาน่าจะไล่ตามแนวโน้มนี้ไปในทิศทางไหนก่อนที่จะพักหรือถอยกลับ แล้วเราจะใช้มันยังไงล่ะ?
มาเริ่มกันเลยดีกว่า
1. การเตรียมตัวก่อนใช้เครื่องมือ Fibonacci Retracement
ก่อนใช้งานจริง ทุกครั้งผมจะแกะกราฟดูอย่างละเอียดเพื่อดูว่าตลาดตอนนั้นอยู่ในช่วงแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง โดยถ้าเป็นแนวโน้มขาขึ้น เราจะลากเส้นจากจุดต่ำสุด (Swing Low) ขึ้นไปยังจุดสูงสุด (Swing High) เพื่อหาจุดที่ราคาจะพักหรือกลับตัว
ในทางกลับกัน ถ้าเป็นแนวโน้มขาลง เราจะลากจากจุดสูงสุดลงไปจุดต่ำสุดเพื่อดูระดับแนวรับที่ราคาอาจเคลื่อนไหวมาแล้วหยุดหรือตีกลับ
2. การตีเส้น Fibonacci และการตีความหมาย
เมื่อเราได้ลากเส้น Fibonacci Retracement บนกราฟแล้ว จะเห็นเส้นแนวนอนหลายเส้นที่แสดงระดับราคาตามค่าเปอร์เซ็นต์เหล่านั้น
– 23.6% คือ จุดที่ราคาอาจพักตัวรายย่อยก่อนจะวิ่งต่อ
– 38.2% และ 50% เป็นจุดที่มีโอกาสเกิดการกลับตัวของราคาอย่างชัดเจน
– 61.8% คือระดับที่ราคามักจะตอบสนองแรงมากที่สุด เพราะเป็นตัวเลขที่สำคัญเรียกว่า “อัตราส่วนทองคำ”
ผมมักจะจับตามองราคาที่เข้าใกล้เส้นเหล่านี้พร้อมกับดูพฤติกรรมของแท่งเทียนหรือ Price Action เพื่อยืนยันจังหวะซื้อหรือขาย
3. วิธีใช้ Fibonacci Retracement ในชีวิตจริงของเทรดเดอร์ไทย
ลองนึกภาพว่าคุณกำลังดูกราฟดัชนี SET หรือคู่เงิน EUR/USD อยู่ คุณสังเกตราคาวิ่งขึ้นแรงจาก 30,000 จุดไปถึง 31,000 จุด แต่ราคาก็เริ่มมีแรงขายออกมาและเราใช้ Fibonacci Retracement ไปวางเส้นจาก 30,000 ถึง 31,000
ราคากลับลงมาสักพักและหยุดพักที่ระดับ 38.2% หรือประมาณ 30,618 จุด นี่คือโอกาสที่ดีมากถ้าเราเห็นแท่งเทียนกลับตัว เช่น Hammer หรือ Pin Bar ที่สื่อความหมายว่าผู้ซื้อยังแกร่งอยู่ นี่แหละครับที่ผมเรียกว่าจังหวะเข้าซื้อที่เหมาะสม
4. ข้อควรระวังและเทคนิคเพิ่มเติม
– Fibonacci ไม่ใช่เครื่องมือที่ให้ผลลัพธ์แน่นอน 100% เสมอไป ต้องใช้คู่กับเครื่องมืออื่นๆ อย่าง RSI, MACD หรือแม้แต่การวิเคราะห์ข่าวสารเพื่อยืนยัน
– อย่าลืมตั้ง Stop Loss ในจุดที่เหมาะสม เช่น เลยระดับ 61.8% ถ้าราคาผ่านไปแสดงว่าการกลับตัวอาจจะไม่เกิด
– ฝึกฝนและใช้กราฟเวลาหลากหลาย (Timeframes) เพื่อตรวจสอบระดับ Fibonacci ให้ละเอียดขึ้น
5. ตัวอย่างการใช้ Fibonacci Retracement ในตลาดหุ้นไทย
ผมนึกถึงกรณีของการที่หุ้น XYZ ของตลาดหุ้นไทยราคาพุ่งขึ้นจาก 10 บาทไป 15 บาท หลังจากที่ผมลาก Fibonacci บนกราฟ และได้เห็นว่าราคาถอยมาที่เส้น 50% ที่ 12.5 บาท พร้อมแท่งเทียน Doji ที่บ่งบอกว่ามีการต่อสู้กันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย นั่นจุดนี้เองเป็นตำแหน่งที่เหมาะสำหรับการเข้าซื้อเพราะราคาน่าจะกลับขึ้นไปต่อ
6. สรุปและข้อคิดส่งท้าย
การเข้าใจและใช้ Fibonacci Retracement ไม่ใช่เรื่องยากหากเราฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอและประยุกต์ใช้ควบคู่กับการวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ ตามประสบการณ์ส่วนตัวของผม นี่คือเครื่องมือที่ช่วยให้คุณจับจังหวะตลาดได้ชัดเจนขึ้น เข้าใจว่าราคาจะพักหรือกลับตัวตรงไหน และลดความเสี่ยงในการเทรดลงอย่างมาก
ดังนั้น สำหรับเทรดเดอร์ไทย ไม่ว่าจะมือใหม่หรือมือโปร การศึกษาและฝึกฝน Fibonacci Retracement คือการลงทุนที่คุ้มค่าและช่วยเพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจเทรดของคุณได้อย่างแท้จริง
แหล่งข้อมูลสำหรับศึกษาเพิ่มเติม:
– https://www.forextime.com/th/education/forex-tutorials/retracement-in-forex-trading
– https://www.litefinance.org/th/blog/for-beginners/best-forex-indicators/fibonacci-retracement/
– https://www.mitrade.com/th/insights/learn/basics/what-is-fibonacci
– https://hmarkets.com/th/learn-to-trade/learning-hub/fibonacci/
– https://www.exness.com/th/indices/fibonacci-retracements/
คำชี้แจง
เนื้อหาบนเว็บไซต์นี้สร้างขึ้นโดย ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และได้รับการตรวจสอบความถูกต้องจากระบบ AI ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลและงานวิจัยล่าสุดแบบ Real-time อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลในการทำความเข้าใจข้อมูลทุกครั้ง ไม่ว่าเนื้อหานั้นจะถูกสร้างโดยมนุษย์หรือ AI ก็ตาม
ทีมงาน NowTrd.com มุ่งมั่นที่จะใช้ AI เป็นเครื่องมือเพื่อมอบข้อมูลที่มีคุณภาพและสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนแก่ผู้อ่านทุกท่านอย่างมีความรับผิดชอบต่อความถูกต้อง หากพบข้อผิดพลาดหรือจุดบกพร่องใดๆ โปรดแจ้งให้เราทราบที่ [email protected] เพื่อร่วมพัฒนาเนื้อหาให้ดียิ่งขึ้น
ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจ