สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังถึงกลยุทธ์การลงทุนที่ผมเชื่อว่าหลายคนอาจจะได้ยินบ่อย แต่ยังไม่เคยลงลึกมากนัก นั่นก็คือ ‘กลยุทธ์ Dollar-Cost Averaging’ หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า DCA นั่นเองครับ ซึ่งกลยุทธ์นี้เป็นวิธีการลงทุนที่ผมใช้เองและเห็นผลในระยะยาว แถมยังเหมาะกับคนไทยที่อยากลงทุนโดยไม่ต้องกังวลเรื่องจับจังหวะตลาดหรือความผันผวนมากนัก
ก่อนอื่นเลย ขอแนะนำภาพรวมของ DCA ว่าเป็นอย่างไร? DCA คือการที่เราลงทุนด้วยจำนวนเงินเท่า ๆ กันอย่างสม่ำเสมอ เช่น ทุกเดือนหรือทุกสัปดาห์ โดยไม่สนใจว่าราคาสินทรัพย์นั้นจะขึ้นหรือลง นั่นหมายความว่าเมื่อราคาสูง เราจะได้จำนวนหน่วยน้อย และเมื่อราคาต่ำ เราจะได้จำนวนหน่วยมากขึ้น วิธีนี้จึงถัวเฉลี่ยต้นทุนของเราไปเรื่อย ๆ ทำให้เราไม่ต้องกลัวว่าเราจะซื้อผิดจังหวะตลาดจนขาดทุนหนัก ๆ นั่นเอง
ผมชอบกลยุทธ์นี้เพราะมันสร้างวินัยการออมที่ดีจริง ๆ คนเรามักอยากรอจังหวะตลาดดี ๆ ถึงจะลงทุน แต่ในชีวิตจริงจะจับจังหวะนั้นยากมาก ๆ ยิ่งถ้าไม่มีเวลาติดตามหรือวิเคราะห์ตลาดบ่อย ๆ การใช้ DCA จะช่วยให้คุณลงทุนไปเรื่อย ๆ อย่างสม่ำเสมอ โดยไม่ต้องคิดเยอะ
กลยุทธ์นี้เหมาะกับนักลงทุนที่มีเป้าหมายระยะยาว เช่น อยากเก็บเงินลงทุนเพื่อใช้ในอนาคต อาจจะเป็นการเกษียณ หรือเก็บไว้ใช้ศึกษาเล่าเรียนบุตรหลาน เพราะการลงทุนแบบนี้ไม่เน้นกำไรสูงในระยะสั้น แต่เน้นความปลอดภัยและเสถียรภาพ
เราลองมาดูข้อดีของ DCA กันว่ามีอะไรบ้าง:
– ลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดอย่างมาก เพราะเราไม่ต้องลงทุนครั้งใหญ่ในจังหวะตลาดที่ไม่แน่นอน
– ไม่ต้องคำนึงถึงว่าตลาดจะขึ้นหรือลง เราก็ยังลงทุนตามแผนอย่างสม่ำเสมอ
– สร้างนิสัยการออมและลงทุนเป็นประจำ ช่วยทำให้เป้าหมายทางการเงินของคุณใกล้เข้ามาอย่างช้า ๆ แต่มั่นคง
– การถัวเฉลี่ยต้นทุนช่วยให้ต้นทุนการลงทุนโดยรวมต่ำกว่าการลงทุนครั้งใหญ่ครั้งเดียวในช่วงที่ราคาสูง
อย่างไรก็ตาม ก็มีข้อจำกัดที่ต้องรู้ด้วย เช่น ต้องมีวินัยลงทุนนาน ๆ ไม่เปลี่ยนใจง่าย ๆ และอาจไม่ได้กำไรสูงสุดในช่วงเวลาที่ตลาดกำลังบูม อีกทั้งถ้าลงทุนในสินทรัพย์ที่มีมูลค่าลดลงเรื่อย ๆ ก็จะไม่ช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องการขาดทุน
ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ สมมุติว่าคุณมีเงินเดือนที่จะแบ่งมาลงทุนเดือนละ 5,000 บาท คุณตั้งใจจะลงทุนในกองทุนรวมหรือหุ้นตัวใดตัวหนึ่งโดยใช้วิธี DCA ลงทุนทุกเดือนโดยไม่สนใจว่าตลาดเป็นอย่างไร เมื่อเวลาผ่านไป 5 ปี คุณจะได้รับจำนวนหน่วยลงทุนที่แตกต่างกันไปตามราคาตลาดในแต่ละเดือน แต่หลักการคือคุณจะไม่ได้จ่ายเงินในราคาสูงเกินไปเสมอไปและจะไม่มีทางขาดทุนหนัก
ควรตั้งเป้าหมายระยะเวลาการลงทุนให้ชัดเจน เช่น 3-5 ปีขึ้นไป และควรเลือกสินทรัพย์ที่เหมาะกับการลงทุนระยะยาว เพราะจะช่วยให้การลงทุนมีโอกาสเติบโตและลดผลกระทบจากความผันผวนได้ดี
สุดท้ายนี้ สำหรับนักลงทุนไทย คุณสามารถเริ่มใช้ DCA ได้ง่าย ๆ ผ่านการซื้อกองทุนรวม หรือซื้อหุ้นผ่านโบรกเกอร์แบบตั้งระบบซื้ออัตโนมัติได้เลยครับ ทั้งนี้ ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีค่าธรรมเนียมต่ำและบริการดี เพื่อไม่ให้ค่าธรรมเนียมกัดกินผลตอบแทนของคุณ
กลยุทธ์ Dollar-Cost Averaging เป็นการลงทุนที่ให้ความรู้สึกมั่นคง ลดความเครียดจากความผันผวน และสอนให้เราเป็นนักลงทุนที่มีวินัยมากขึ้นกว่าเดิมจริง ๆ ผมแนะนำให้ลองใช้ดู รับรองว่าจะช่วยให้คุณก้าวสู่เป้าหมายทางการเงินได้อย่างมั่นคงและปลอดภัยครับ
แหล่งข้อมูลอ้างอิงและอ่านเพิ่มเติม:
– ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย SET Investnow (https://www.setinvestnow.com/th/beginner/growing-portfolio-dca)
– Krungsri The Coach: กลยุทธ์การลงทุนแบบ DCA (https://www.krungsri.com/th/krungsri-the-coach/investments/investment-knowledge/dca-investment-strategy)
– Principal Thailand: การลงทุนแบบ DCA (https://www.principal.th/th/investwithdca)
คำชี้แจง
เนื้อหาบนเว็บไซต์นี้สร้างขึ้นโดย ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และได้รับการตรวจสอบความถูกต้องจากระบบ AI ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลและงานวิจัยล่าสุดแบบ Real-time อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลในการทำความเข้าใจข้อมูลทุกครั้ง ไม่ว่าเนื้อหานั้นจะถูกสร้างโดยมนุษย์หรือ AI ก็ตาม
ทีมงาน NowTrd.com มุ่งมั่นที่จะใช้ AI เป็นเครื่องมือเพื่อมอบข้อมูลที่มีคุณภาพและสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนแก่ผู้อ่านทุกท่านอย่างมีความรับผิดชอบต่อความถูกต้อง หากพบข้อผิดพลาดหรือจุดบกพร่องใดๆ โปรดแจ้งให้เราทราบที่ [email protected] เพื่อร่วมพัฒนาเนื้อหาให้ดียิ่งขึ้น
ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจ