ถ้าถามผมว่า นักลงทุนไทยอย่างเราควรมีวิธีการลงทุนแบบไหนให้มั่นคง ลดความเสี่ยงตลาด และยังสร้างผลตอบแทนได้ในระยะยาว ผมเชื่อว่ากลยุทธ์หนึ่งที่ได้ผลเห็นจะหนีไม่พ้น “Dollar-Cost Averaging” หรือเรียกย่อๆ ว่า DCA นั่นเอง ซึ่งผมจะมาเล่าให้ฟังอย่างที่ผมเข้าใจและลองใช้กับตัวเองมาแล้วว่า มันช่วยได้จริงๆ
ทำความรู้จักกับกลยุทธ์ Dollar-Cost Averaging (DCA)
กลยุทธ์นี้ง่ายมากครับ มันก็คือการลงทุนจำนวนเงินเท่าเดิมในระยะเวลาที่กำหนด เช่น ทุกเดือน ทุกสัปดาห์ หรือทุกไตรมาส โดยไม่สนใจว่าสภาพตลาดตอนนั้นจะเป็นอย่างไร ราคาแพงหรือถูก เราก็ยังลงทุนด้วยจำนวนเงินเท่าเดิมอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งสิ่งนี้เองที่จะทำให้เราสามารถเฉลี่ยต้นทุนการซื้อสินทรัพย์ในช่วงเวลาต่างๆ ได้ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของการลงทุนในตอนที่ตลาดผันผวนมากๆ
ทำไม DCA ถึงเหมาะกับนักลงทุนไทย
ประเทศไทยเอง การลงทุนระยะยาวในกองทุนรวม หรือหุ้นที่มีความมั่นคงกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น การลงทุนแบบ DCA จึงเหมาะมากสำหรับคนที่อยากเริ่มสร้างพอร์ตลงทุนแบบไม่มีความกังวลมากนัก เพราะไม่ต้องคอยจับจังหวะตลาดที่หลายคนมักเข้าใจผิดว่าต้องมีพรสวรรค์หรือข้อมูลลึกซึ้งถึงจะลงทุนถูกจังหวะได้
ตัวอย่างเช่น ถ้าเราตั้งใจลงทุนเดือนละ 5,000 บาทในกองทุนรวมหรือหุ้นที่เราเชื่อมั่น การลงทุนแบบ DCA จะทำให้เราได้จำนวนหน่วยลงทุนมากขึ้นเมื่อราคาต่ำ และได้หน่วยลงทุนน้อยลงเมื่อราคาสูง ซึ่งในระยะยาวจะช่วยลดต้นทุนเฉลี่ยของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประโยชน์หลักของการใช้กลยุทธ์ DCA
– ลดความเครียดจากความผันผวนของตลาด: เพราะเราไม่ได้ลงทุนก้อนใหญ่ในครั้งเดียว การเริ่มต้นด้วยจำนวนเงินขนาดกลางๆ อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เราไม่หวั่นวิตกกับความเปลี่ยนแปลงในตลาดที่เกิดขึ้นรายวัน
– สร้างวินัยในการลงทุน: นักลงทุนต้องมีวินัยในการให้เงินทุนไหลเข้าสู่ตลาดอย่างสม่ำเสมอ นี่คือการสร้างนิสัยทางการเงินที่ดี
– เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว: จากการเฉลี่ยต้นทุนซื้อ ทำให้เมื่อเวลาผ่านไปพอร์ตของเรามักจะมีโอกาสได้ผลตอบแทนกลับมามากกว่า
อยากลองใช้ DCA ต้องเตรียมตัวอย่างไร?
ก่อนอื่นเลยต้องตั้งเป้าหมายการลงทุนให้ชัดเจน ว่าเราต้องการลงทุนเพื่ออะไร เช่น สร้างเงินเกษียณ ซื้อบ้าน หรือเก็บเงินสำหรับลูกๆ โดยใช้ระยะเวลาที่ยาวพอสมควร จากนั้นเลือกสินทรัพย์ที่เหมาะสมกับเป้าหมาย รวมถึงความเสี่ยงที่เรารับได้ เช่น กองทุนรวมหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตดี หรือตราสารหนี้ที่ค่อนข้างมั่นคง
ถัดมาคือการกำหนดจำนวนเงินที่เราจะลงทุนอย่างสม่ำเสมอ และช่วงเวลาที่จะลงทุน เช่น เงิน 3,000 บาท ทุกเดือน ซึ่งควรเป็นเงินที่เราสามารถกันไว้ได้โดยที่ไม่กระทบการใช้ชีวิตประจำวัน
ข้อควรระวังที่ต้องรู้เมื่อใช้กลยุทธ์ DCA
แม้ว่า DCA จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็ไม่ได้ปราศจากข้อจำกัด เช่น
– หากตลาดราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การลงทุนแบบ DCA อาจทำให้เราซื้อสินทรัพย์ในราคาสูงเรื่อยๆ ซึ่งผลตอบแทนอาจน้อยกว่าการลงทุนก้อนใหญ่ครั้งเดียว
– นักลงทุนต้องมีความอดทนและวินัยอย่างสูง ต้องไม่หยุดลงทุนเมื่อตลาดผันผวนและราคาตกลง
– ไม่เหมาะกับคนที่ต้องการผลตอบแทนระยะสั้นหรือมีเงินทุนจำกัด ควรเลือกใช้เมื่อมีแผนลงทุนระยะยาว
สรุปแล้ว ผมมองว่า กลยุทธ์ Dollar-Cost Averaging คือหนทางที่ดีสำหรับนักลงทุนไทยที่ต้องการความมั่นคงและลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด การลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ด้วยจำนวนเงินเท่าเดิม จะช่วยให้เราบริหารต้นทุนซื้อได้ดี และสร้างวินัยทางการเงินที่สำคัญมากๆ สำหรับการเดินทางของนักลงทุน
ลองเริ่มต้นด้วยจำนวนเงินที่เหมาะสมกับตัวเอง และเลือกสินทรัพย์ที่ไว้ใจได้ แล้วค่อยๆ ดูผลตอบแทนในระยะยาว คุณจะได้รู้ว่าการลงทุนไม่ต้องซับซ้อนมากมายก็ทำให้มั่งคั่งได้จริงๆ
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– Bangkok Bank. Dollar Cost Averaging (DCA). https://www.bangkokbank.com/en/Personal/Tips-and-Insights/DCA
– StashAway Thailand. Dollar-Cost Averaging: Are You Doing it Right? https://www.stashaway.co.th/r/dollar-cost-averaging
– ThaiJO. Dollar-Cost Averaging in Thailand’s Equity Index Mutual Fund. https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jibim/article/download/270950/181090/1106633
คำชี้แจง
เนื้อหาบนเว็บไซต์นี้สร้างขึ้นโดย ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และได้รับการตรวจสอบความถูกต้องจากระบบ AI ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลและงานวิจัยล่าสุดแบบ Real-time อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลในการทำความเข้าใจข้อมูลทุกครั้ง ไม่ว่าเนื้อหานั้นจะถูกสร้างโดยมนุษย์หรือ AI ก็ตาม
ทีมงาน NowTrd.com มุ่งมั่นที่จะใช้ AI เป็นเครื่องมือเพื่อมอบข้อมูลที่มีคุณภาพและสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนแก่ผู้อ่านทุกท่านอย่างมีความรับผิดชอบต่อความถูกต้อง หากพบข้อผิดพลาดหรือจุดบกพร่องใดๆ โปรดแจ้งให้เราทราบที่ [email protected] เพื่อร่วมพัฒนาเนื้อหาให้ดียิ่งขึ้น
ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจ