ส่วนใหญ่พอร์ตไม่ได้พังเพราะกราฟ
แต่พังเพราะเทรดเดอร์ไม่เคยรู้เลยว่า
ช่วงไหน “ระบบคุมมือ”
ช่วงไหน “อารมณ์คุมมือ”
ไม้ที่เข้าเพราะ FOMO ดูเผิน ๆ ก็เหมือนไม้ปกติ
แค่เห็นกราฟวิ่ง เห็นคนอื่นโชว์กำไร
ก็รีบกดโดยไม่ทันเช็ก RR ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า SL จะวางตรงไหน
ตอนนั้นเราไม่ได้เทรดด้วยแผน
แต่กำลังให้ตลาดลากอารมณ์ไปทั้งดุ้น
ลูปที่ต้องมีให้ขึ้นใจคือ 4 คำง่าย ๆ
Plan – Wait – Execute – Review
ไม่ใช่แค่คำเท่ ๆ แต่คือฟิลเตอร์กันพอร์ตพังในวันที่หัวร้อน
Plan คือ รู้ตัวให้เร็วว่าไม้ก่อนหน้าเข้าเพราะอะไร
ถ้าเข้าเพราะอยากเอาคืน อยากลบแดง
ให้ตีตราไว้เลยว่า “นี่คือไม้หลุดแผน”
ไม่ต้องแก้ตัว ไม่ต้องโทษกราฟ
ยอมรับตรง ๆ ว่าอารมณ์เริ่มยึดจอย
Wait คือ กล้าหยุดทั้ง ๆ ที่อยากกดให้หายแค้น
ปิดจอ เดินหนีกราฟสักพัก
เพราะทุกครั้งที่หัวร้อน มือจะไวเสมอ
และไม้ที่มือไวเกินไป มักเป็นไม้ที่ SL โดนง่ายที่สุด
Execute คือ กลับมาแล้วดูแต่ระบบ
ถามตัวเองแค่ข้อเดียวว่า
“ถ้าไม่ติดว่าเพิ่งเจ็บมา ไม้นี้ตามระบบไหม”
ถ้าเงื่อนไขไม่ครบ RR ไม่คุ้ม SL วางไม่ลง
ให้ยอมปล่อยโอกาสทิ้งไป
เพราะโอกาสไม่เคยหมด แต่พอร์ตหมดได้จริง
Review คือ ยอมเสียเวลาเขียน Journal แบบละเอียด
วันนี้หลุดแผนกี่ไม้ เกิดจากอะไร
เข้าเพราะอยากล้างแค้น หรือเพราะกลัวพลาด
ย้ำกับตัวเองทุกครั้งว่า
ไม้ที่ไม่ตามระบบคือ “ความผิดพลาด”
ไม่ใช่ “ดวงไม่ดี” และห้ามใช้คำว่าดวงมาอุ้ม Ego
เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ตามหาวิธี Winrate สูง อินดี้ล้ำ กลยุทธ์ซับซ้อน
แต่สุดท้ายคนที่รอดตลาดหมีได้ยาว ๆ
คือคนที่ทำลูป Plan – Wait – Execute – Review ได้ทุกวัน
แม้วันไหนจะขาดทุน ก็ยังคุมตัวเองให้อยู่ในกรอบเดิม
เกมนี้ไม่ได้วัดกันที่ใครทายทางแม่นกว่า
แต่วัดกันที่ใคร “คุมอารมณ์ตัวเอง” ได้แม่นกว่าตอนเงินลอยอยู่บนจอ
ใครคุมลูปอารมณ์ได้ก่อน
คนนั้นคุมพอร์ตตัวเองได้ก่อน




