เมื่อเราพูดถึงการลงทุนในโลหะมีค่า หลายคนมักจะนึกถึงทองคำและเงิน อย่างที่รู้กันดีว่าทั้งสองนั้นเป็นสินทรัพย์ที่มีคุณค่าและได้รับความนิยมจากนักลงทุนทั่วโลก รวมไปถึงตลาดไทยด้วย แต่จะเลือกลงทุนในทองคำหรือเงินดี หรือควรถือทั้งสองในพอร์ตการลงทุนอย่างไรให้สมดุลนั้น เป็นคำถามที่นักลงทุนไทยหลายคนกำลังสงสัยกันอยู่ วันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องนี้ด้วยมุมมองแบบคนที่คลุกคลีในวงการการลงทุนโลหะมีค่ามานาน และจะพาไปเจาะลึกถึงความแตกต่าง การใช้ประโยชน์ และบทบาทที่ต่างกันของทองคำและเงินในการสร้างพอร์ตการเงินที่มั่นคง
เข้าใจความแตกต่างพื้นฐานของทองคำและเงินกันก่อนเลยนะครับ ทองคำมักถูกมองว่าเป็น “เครื่องมือแห่งความมั่นคง” มันเก็บมูลค่าได้ดีและให้ความมั่นใจในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอน เช่น ความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ ภาวะเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าหรือตลาดหุ้นผันผวน ทองคำมักจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษเมื่อเงินเฟ้อสูงหรือตลาดเกิดวิกฤต เพราะมันทำหน้าที่เป็นที่หลบภัยที่ปลอดภัย (safe haven) ได้ดีมาก ๆ
ในทางกลับกัน เงินนั้นมีความผันผวนสูงกว่าทองคำ โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจขยายตัวและภาคอุตสาหกรรมต้องการมาก เพราะเงินมีการใช้งานในอุตสาหกรรมสูง เช่น อิเล็กทรอนิกส์ แบตเตอรี่ และแผงโซลาร์เซลล์ นั่นทำให้ราคาของเงินมีความสัมพันธ์กับแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลกพอสมควร และก็เป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนจากการเติบโตทางเศรษฐกิจมากกว่าการเก็บมูลค่าแบบปลอดภัย
ทีนี้ถ้าเรามาดูกันในบริบทของนักลงทุนไทย การลงทุนในทองคำถือว่ามีความนิยมและง่ายต่อการเข้าถึง ไม่ว่าจะเป็นทองรูปพรรณ ทองคำแท่ง หรือผ่านกองทุนรวมทองคำ ทั้งนี้ นักลงทุนควรติดตามราคาทองคำโลกซึ่งอาจผันผวนตามสภาพเศรษฐกิจระหว่างประเทศ รวมถึงนโยบายการเงินของสหรัฐและการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาทองคำในไทยด้วย
ส่วนเงินนั้น นักลงทุนไทยสามารถลงทุนผ่านกองทุนเหมืองแร่เงิน หรือกองทุนที่เกี่ยวกับโลหะเงิน รวมถึงซื้อเงินแท่งหรือเหรียญเงินเพื่อถือครอง แต่ด้วยความผันผวนในราคาที่สูงกว่าทองคำ นักลงทุนต้องมีความใจเย็นและกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงที่ดี
ในเรื่องของพอร์ตการลงทุน การผสมผสานระหว่างทองคำและเงินในสัดส่วนที่เหมาะสมจะช่วยให้พอร์ตมีความมั่นคงและมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดี โดยทั่วไปนักลงทุนอาจเลือกถือทองคำในสัดส่วนราว 10-20% ของพอร์ตเพื่อป้องกันความเสี่ยงและเงินในสัดส่วนประมาณ 5-10% เพื่อเก็งกำไรและเพิ่มโอกาสผลตอบแทน แต่ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับเป้าหมายการลงทุนและระดับความเสี่ยงที่แต่ละคนรับได้
ผมขอแนะนำให้ทุกคนติดตามข้อมูลข่าวสารและแนวโน้มของราคาทองคำและเงินอย่างต่อเนื่อง เพราะปี 2024 นี้มีปัจจัยที่หลากหลาย เช่น นโยบายการเงินโลก ภาวะเงินเฟ้อ และความต้องการใช้โลหะในอุตสาหกรรม ซึ่งล้วนส่งผลต่อราคาของทั้งสองโลหะนี้ทั้งสิ้น
สุดท้าย การลงทุนต้องมีความรอบคอบและเหมาะสมกับสไตล์ของแต่ละคน การรู้จักจังหวะการเข้าซื้อและขาย การบริหารจัดการความเสี่ยง และการกระจายการลงทุนอย่างเหมาะสม จะทำให้พอร์ตของคุณเข้มแข็งและสามารถผ่านช่วงเวลาที่ผันผวนได้อย่างมั่นใจ
ถ้าคุณกำลังคิดจะลงทุนในทองคำหรือเงินในปีนี้ อย่าลืมพิจารณาแต่ละตัวอย่างรอบด้าน และเลือกผสมผสานในพอร์ตของคุณให้เหมาะสมกับเป้าหมายและความต้องการของตัวเองนะครับ
คำชี้แจง
เนื้อหาบนเว็บไซต์นี้สร้างขึ้นโดย ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และได้รับการตรวจสอบความถูกต้องจากระบบ AI ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลและงานวิจัยล่าสุดแบบ Real-time อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลในการทำความเข้าใจข้อมูลทุกครั้ง ไม่ว่าเนื้อหานั้นจะถูกสร้างโดยมนุษย์หรือ AI ก็ตาม
ทีมงาน NowTrd.com มุ่งมั่นที่จะใช้ AI เป็นเครื่องมือเพื่อมอบข้อมูลที่มีคุณภาพและสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนแก่ผู้อ่านทุกท่านอย่างมีความรับผิดชอบต่อความถูกต้อง หากพบข้อผิดพลาดหรือจุดบกพร่องใดๆ โปรดแจ้งให้เราทราบที่ [email protected] เพื่อร่วมพัฒนาเนื้อหาให้ดียิ่งขึ้น
ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจ