สวัสดีครับเพื่อนๆ นักลงทุน วันนี้ผมจะมาแชร์ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนในดัชนี ผ่านกองทุนรวมดัชนี (Index Funds) และกองทุน ETF (Exchange Traded Funds) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราสามารถลงทุนในตลาดหุ้นได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องปวดหัวกับการเลือกหุ้นเองทีละตัว แถมยังมีข้อดีอีกเพียบ!
ทำความรู้จักกับ “ดัชนี”
ก่อนอื่นเลย เราต้องเข้าใจก่อนว่า “ดัชนี” คืออะไร? ง่ายๆ เลยครับ ดัชนีก็เปรียบเสมือนตัวแทนของตลาดหุ้น มันจะสะท้อนภาพรวมของตลาดในช่วงเวลานั้นๆ เช่น ดัชนี SET Index ของบ้านเรา ก็จะประกอบไปด้วยหุ้นขนาดใหญ่ 50 ตัว ถ้าดัชนีขึ้น แปลว่าโดยรวมแล้วราคาหุ้นในตลาดกำลังไปได้สวย แต่ถ้าดัชนีลง ก็แปลว่าราคาหุ้นส่วนใหญ่กำลังร่วงนั่นเอง
Index Fund คืออะไร?
Index Fund หรือ กองทุนรวมดัชนี ก็คือกองทุนรวมที่ไปลงทุนในหุ้นตามดัชนีที่เป็นตัวชี้วัด เช่น ถ้าเป็น Index Fund ที่อิงกับ SET50 กองทุนก็จะไปซื้อหุ้น 50 ตัว ตามสัดส่วนเดียวกับดัชนี SET50 เป๊ะๆ เลย เพราะฉะนั้น ผลตอบแทนของกองทุนก็จะใกล้เคียงกับดัชนีที่ไปอิงด้วย
ข้อดีของ Index Fund
- กระจายความเสี่ยง: ไม่ต้องลุ้นกับหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง เพราะเราลงทุนในหุ้นหลายๆ ตัวพร้อมกันตามดัชนี
- บริหารจัดการง่าย: ไม่ต้องเสียเวลาเลือกหุ้นเอง มีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพดูแลให้
- ค่าธรรมเนียมต่ำ: โดยทั่วไปแล้ว Index Fund จะมีค่าธรรมเนียมต่ำกว่ากองทุนรวมประเภทอื่นๆ เพราะไม่ต้องใช้ความพยายามในการบริหารจัดการมากนัก
ETF คืออะไร?
ETF หรือ Exchange Traded Funds ก็คล้ายๆ กับ Index Fund ตรงที่เป็นกองทุนที่ไปลงทุนตามดัชนีเหมือนกัน แต่ ETF จะแตกต่างตรงที่ เราสามารถซื้อขาย ETF ได้ในตลาดหลักทรัพย์เหมือนหุ้น ซึ่งทำให้มีความยืดหยุ่นในการซื้อขายมากกว่า
ข้อดีของ ETF
- ซื้อขายได้ตลอดเวลา: ซื้อขายได้แบบ Real-time ตลอดเวลาทำการของตลาดหลักทรัพย์
- สภาพคล่องสูง: ซื้อขายง่าย มีปริมาณการซื้อขายมาก
- ค่าธรรมเนียมต่ำ: เช่นเดียวกับ Index Fund ETF ก็มีค่าธรรมเนียมค่อนข้างต่ำ
แล้ว Index Fund กับ ETF ต่างกันยังไง?
ถึงแม้ Index Fund และ ETF จะเป็นกองทุนที่ลงทุนตามดัชนีเหมือนกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันอยู่บ้าง ดังนี้
คุณสมบัติ | Index Fund | ETF |
---|---|---|
วิธีการซื้อขาย | ผ่าน บลจ. | ผ่านโบรกเกอร์ในตลาดหลักทรัพย์ |
เวลาซื้อขาย | ตามเวลาที่ บลจ. กำหนด (ส่วนใหญ่ซื้อขายวันละครั้ง) | ซื้อขายได้ตลอดเวลาทำการของตลาดหลักทรัพย์ |
ราคา | ราคา NAV (Net Asset Value) ประกาศ ณ สิ้นวัน | ราคาขึ้นลงตามกลไกตลาดตลอดเวลา |
สภาพคล่อง | ขึ้นอยู่กับนโยบายของ บลจ. | สภาพคล่องสูง ซื้อขายง่าย |
ลงทุนในดัชนีอย่างไรให้ปัง?
- เลือกดัชนีที่เหมาะสม: ศึกษาข้อมูลดัชนีที่เราสนใจ เช่น SET50, SET100, S&P 500, หรือดัชนีต่างประเทศอื่นๆ ว่ามีองค์ประกอบ ผลตอบแทน และความเสี่ยงเป็นอย่างไร
- เลือกระหว่าง Index Fund หรือ ETF: พิจารณาจากความต้องการของเรา ว่าต้องการความยืดหยุ่นในการซื้อขายมากน้อยแค่ไหน
- กระจายการลงทุน: อย่าใส่ไข่ไว้ในตะกร้าใบเดียว ควรแบ่งเงินลงทุนในดัชนีต่างๆ หรือสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ด้วย
- ลงทุนระยะยาว: การลงทุนในดัชนีเหมาะกับการลงทุนระยะยาว เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
- ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม: ก่อนตัดสินใจลงทุน ควรศึกษาข้อมูล อ่านหนังสือ หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
ตัวอย่าง Index Fund และ ETF ในไทย
- กองทุนรวมดัชนี SET50: เช่น BKD50 (บลจ. กสิกรไทย), SCBSET50 (บลจ. ไทยพาณิชย์)
- ETF SET50: เช่น SPDR SET50 (Bloomberg: SET50.BK)
บทสรุป
การลงทุนในดัชนีผ่าน Index Fund และ ETF เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน โดยเฉพาะมือใหม่ ที่ต้องการลงทุนในตลาดหุ้นแบบง่ายๆ กระจายความเสี่ยง และมีค่าธรรมเนียมต่ำ อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจลงทุน ควรศึกษาข้อมูลให้ดี เพื่อให้การลงทุนของเราประสบความสำเร็จตามเป้าหมายครับ