หากพูดถึงการลงทุนในตลาดหุ้น หลายคนอาจจะเคยได้ยินเรื่องการใช้ดัชนีหุ้น (Stock Indices) เพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงในพอร์ตลงทุน แต่จะมีสักกี่คนที่เข้าใจจริงๆ ว่าดัชนีหุ้นนั้นสามารถช่วยเราป้องกันความเสี่ยงในพอร์ตของเราได้อย่างไร? วันนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์และให้ความรู้จากมุมมองของผมในฐานะนักลงทุนและเทรดเดอร์ที่อยู่ในวงการนี้มานาน เข้าใจถึงความซับซ้อนของตลาดหุ้น และได้เรียนรู้วิธีบริหารความเสี่ยงผ่านดัชนีหุ้นอย่างเจาะลึก
ดัชนีหุ้นที่นิยมใช้กันในประเทศไทย เช่น SET50 ซึ่งประกอบไปด้วยหุ้นใหญ่ 50 ตัวที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และดัชนีระดับโลกอย่าง S&P 500 ซึ่งรวมบริษัทยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมถึงต้องดูทั้งดัชนีในประเทศและต่างประเทศ?
คำตอบก็คือการกระจายความเสี่ยง (Diversification) นั่นเองครับ การลงทุนในหุ้นเพียงไม่กี่ตัวหรือกลุ่มเดียวอาจจะเสี่ยงมากหากตลาดเกิดความผันผวนหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น แต่ถ้าเราสามารถกระจายเงินลงทุนไปในหุ้นหลายตัวในดัชนีเหล่านี้ จะช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมาก เพราะโอกาสที่หุ้นทุกตัวจะขาดทุนพร้อมกันนั้นค่อนข้างน้อย
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ลองนึกถึงการถือหุ้น SET50 และ S&P 500 พร้อมกันในพอร์ตของคุณ ซึ่งจะช่วยลดความรุนแรงของความผันผวนในตลาดหุ้นไทยเพียงอย่างเดียว เพราะตลาดสหรัฐฯ อาจจะมีแนวโน้มแตกต่างและไม่ขึ้นหรือลงพร้อมกันกับตลาดไทยเสมอไป
อีกข้อดีของการใช้ดัชนีหุ้นคือ การเป็นเครื่องมือที่สะดวกและเข้าใจง่ายสำหรับการติดตามและประเมินผลการลงทุนของเรา เนื่องจากดัชนีหุ้นนั้นถูกออกแบบมาให้สะท้อนภาพรวมของตลาดในช่วงเวลาหนึ่งๆ การติดตามดัชนีหุ้นช่วยให้เราเห็นภาพรวมของตลาดและพอร์ตของเราได้โดยไม่ต้องติดตามหุ้นทีละตัว
จากการศึกษาวิจัยและงานวิจัยหลายชิ้นที่เกี่ยวข้องกับ SET50 เช่นงานวิจัยที่ยืนยันว่า SET50 มีความผันผวนและความเสี่ยงที่สามารถบริหารได้ด้วยการใช้ดัชนีนี้ประกอบกับการกระจายความเสี่ยงไปยังตลาดต่างประเทศ เช่น S&P 500 จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารพอร์ต (อ้างอิงจากบทความวิจัย: https://www.researchgate.net/publication/391795447_Optimal_Portfolio_Construction_Using_the_Realized_Volatility_Concept_Empirical_Evidence_from_the_Stock_Exchange_of_Thailand)
เทคนิคเบื้องต้นที่ผมแนะนำสำหรับการใช้ดัชนีหุ้นในการบริหารความเสี่ยงมีดังนี้:
1. ผสมผสานดัชนีหุ้นหลายตัวในพอร์ตลงทุนของคุณเพื่อกระจายความเสี่ยง
2. ตั้งเกณฑ์และเป้าหมายของอัตราความเสี่ยงที่ยอมรับได้ในแต่ละช่วงเวลา
3. ใช้ดัชนีหุ้นเป็นเกณฑ์ในการปรับสัดส่วนการลงทุนอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาสมดุลของพอร์ต
4. ติดตามข่าวสารและการเปลี่ยนแปลงของตลาด เพื่อปรับกลยุทธ์ตามสถานการณ์
การเข้าใจและใช้ดัชนีหุ้นเพื่อบริหารความเสี่ยงจึงไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด แค่เรามีความรู้และทักษะที่เหมาะสม พร้อมทั้งลงมือปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ ก็จะสามารถรักษาทุนในพอร์ตได้อย่างมั่นคงและมีโอกาสเติบโตไปเรื่อยๆ
สำหรับเทรดเดอร์และนักลงทุนออนไลน์ในประเทศไทย บทความนี้หวังว่าจะช่วยให้คุณมีมุมมองใหม่ๆ และเครื่องมือที่แข็งแกร่งในการบริหารความเสี่ยงผ่านดัชนีหุ้น เพื่อการลงทุนที่มั่นคงและยั่งยืนครับ
อ้างอิงและศึกษาต่อ:
– https://www.researchgate.net/publication/391795447_Optimal_Portfolio_Construction_Using_the_Realized_Volatility_Concept_Empirical_Evidence_from_the_Stock_Exchange_of_Thailand
– https://www.mdpi.com/1911-8074/18/5/269
– https://www.researchgate.net/publication/367994214_Value_at_risk_estimation_of_the_SET50_index
เมื่อคุณเข้าใจถึงคุณค่าของดัชนีหุ้นเหล่านี้ ไม่เพียงแต่คุณจะได้เพิ่มโอกาสให้พอร์ตของคุณเติบโต แต่ยังช่วยลดความห่วงใจเรื่องความผันผวนที่จะเข้ามากวนใจการลงทุนของคุณอีกด้วย ลุยไปด้วยกันครับ!
คำชี้แจง
เนื้อหาบนเว็บไซต์นี้สร้างขึ้นโดย ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และได้รับการตรวจสอบความถูกต้องจากระบบ AI ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลและงานวิจัยล่าสุดแบบ Real-time อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลในการทำความเข้าใจข้อมูลทุกครั้ง ไม่ว่าเนื้อหานั้นจะถูกสร้างโดยมนุษย์หรือ AI ก็ตาม
ทีมงาน NowTrd.com มุ่งมั่นที่จะใช้ AI เป็นเครื่องมือเพื่อมอบข้อมูลที่มีคุณภาพและสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนแก่ผู้อ่านทุกท่านอย่างมีความรับผิดชอบต่อความถูกต้อง หากพบข้อผิดพลาดหรือจุดบกพร่องใดๆ โปรดแจ้งให้เราทราบที่ [email protected] เพื่อร่วมพัฒนาเนื้อหาให้ดียิ่งขึ้น
ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจ