เมื่อเราพูดถึงวงการแฟชั่นสุดหรูระดับโลก ชื่อ Kering อาจจะยังไม่คุ้นหูสำหรับหลายคน แต่เชื่อเถอะว่าผลงานและอิทธิพลของบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งนี้ในวงการแฟชั่นนั้นมโหฬารเกินคาดเลยล่ะ Kering คือกลุ่มบริษัทแฟชั่นและเครื่องประดับหรูที่แข็งแกร่ง มีแบรนด์ระดับโลกอย่าง Gucci, Balenciaga, Yves Saint Laurent รวมถึงอีกหลายแบรนด์ที่มีชื่อเสียง จนทำให้ Kering กลายเป็นหนึ่งในเทรนด์เมกเกอร์สำคัญที่เฝ้าดูอย่างใกล้ชิดในตลาดแฟชั่นสูง
คงไม่แปลกใจที่หลายคนอาจสงสัยว่า แล้วกลยุทธ์ที่ทำให้ Kering ยืนหยัดและครองใจแฟชั่นนิสต้าทั่วโลกคืออะไร? วันนี้ผมจะพาคุณไปเจาะลึกแผนการทำงานของ Kering ตั้งแต่การจัดการแบรนด์ดังไปจนถึงมุมมองต่ออนาคตของวงการแฟชั่น
กลยุทธ์หลักของ Kering: เน้นความยั่งยืนและนวัตกรรม
Kering ไม่ได้เป็นแค่บริษัทยักษ์ใหญ่แบบธรรมดา แต่เขามีกลยุทธ์เร่งด่วนเพื่อสอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของโลกโดยเฉพาะเรื่องความยั่งยืน ตั้งแต่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม, ใช้วัตถุดิบที่มีความรับผิดชอบ, ไปจนถึงการลดของเสียและการจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งเหล่านี้ทำให้ Kering ดีดตัวเองขึ้นมาได้ในสายตาของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจและต้องการเข้าถึงแฟชั่นที่ไม่ทำลายโลก
นอกจากนี้ บริษัทยังเร่งเสริมความแข็งแกร่งของแต่ละแบรนด์ภายในเครือให้มีเอกลักษณ์และจุดขายชัดเจนอย่าง Gucci ที่ในปี 2024 ถึงแม้ว่ารายได้จะมีการลดลงแต่ก็มีการตั้งแคมเปญ “Gucci Ancora” ที่นำเสนอความซับซ้อนลดลงและความหรูหราแบบเรียบง่ายผ่านการออกแบบที่เป็นมิตรกับผู้บริโภคในวงกว้าง
ขยายตลาดด้วย Kering Eyewear และการปรับช่องทางจัดจำหน่าย
ในปี 2024 รายได้ของ Kering ลดลง 12% ซึ่งเป็นความท้าทายที่รุนแรง แต่ยังมีส่วนที่เติบโตอย่าง Kering Eyewear ที่รายงานรายได้เพิ่มขึ้น 24% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการใช้กลยุทธ์เน้นความพิเศษและความต้องการเฉพาะกลุ่ม โดยการตัดสินใจจัดการช่องทางจัดจำหน่ายอย่างเข้มงวดเพื่อลดช่องทางขายส่งลงมากกว่า 20% เพื่อคงความพรีเมียมและความพิเศษของแบรนด์เอาไว้
ยกตัวอย่างเช่น Gucci ที่ในปีเดียวกันรายได้ลดลง 23% แต่ทางบริษัทได้ประกาศแผนฟื้นฟูและการตั้งเป้าหมายนวัตกรรมใหม่ในคอลเลกชันปี 2025 ที่จะช่วยให้แบรนด์ก้าวสู่ความทันสมัยและตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่มากขึ้น
บทสรุปและทิศทางอนาคตของ Kering
สิ่งที่ผมเห็นชัดเจนคือ Kering ไม่หยุดนิ่งกับความสำเร็จเดิมๆ แต่กลับมุ่งมั่นในเรื่องการสร้างสรรค์และการเปลี่ยนแปลง ทั้งในแง่ของผลิตภัณฑ์ นวัตกรรม รวมถึงการปรับช่องทางจัดจำหน่ายและการทำตลาดแบบยั่งยืน นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม Kering ถึงยังเป็นเจ้าตลาดแฟชั่นลักชัวรี่ที่แข็งแกร่ง แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค
สุดท้าย ถ้าคุณเป็นผู้ที่สนใจแฟชั่นระดับลักชัวรี่และอยากรู้ว่าธุรกิจแฟชั่นยักษ์ใหญ่อย่าง Kering กำลังจะพาคุณเดินทางไปสู่ทิศทางไหน ผมแนะนำให้จับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะแผนกลยุทธ์ที่ผสมผสานระหว่างความคลาสสิกและนวัตกรรมของพวกเขาจะเปลี่ยนภาพลักษณ์ของแฟชั่นระดับโลกในอนาคตอย่างแน่นอน
หวังว่าบทความนี้จะให้มุมมองที่ลึกซึ้งและชัดเจนเกี่ยวกับ Kering และเส้นทางที่เขาเดินในอุตสาหกรรมแฟชั่นระดับโลกนะครับ
คำชี้แจง
เนื้อหาบนเว็บไซต์นี้สร้างขึ้นโดย ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และได้รับการตรวจสอบความถูกต้องจากระบบ AI ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลและงานวิจัยล่าสุดแบบ Real-time อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลในการทำความเข้าใจข้อมูลทุกครั้ง ไม่ว่าเนื้อหานั้นจะถูกสร้างโดยมนุษย์หรือ AI ก็ตาม
ทีมงาน NowTrd.com มุ่งมั่นที่จะใช้ AI เป็นเครื่องมือเพื่อมอบข้อมูลที่มีคุณภาพและสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนแก่ผู้อ่านทุกท่านอย่างมีความรับผิดชอบต่อความถูกต้อง หากพบข้อผิดพลาดหรือจุดบกพร่องใดๆ โปรดแจ้งให้เราทราบที่ [email protected] เพื่อร่วมพัฒนาเนื้อหาให้ดียิ่งขึ้น
ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจ