ถ้าถามว่าในฐานะนักลงทุนชาวไทยคนหนึ่ง การเผชิญกับตลาดที่ขึ้นๆ ลงๆ อย่างรวดเร็วและไม่แน่นอนเป็นเรื่องที่ทำให้ใจแป้วได้เสมอ และผมเองก็เคยตกอยู่ในสถานการณ์นั้นมาก่อนหลายครั้ง วันนี้ผมจึงอยากเล่าถึงวิธีการบริหารความเสี่ยงอย่างละเอียดที่ผมได้นำมาใช้เอง แล้วรู้สึกว่าสามารถปกป้องเงินทุนและเพิ่มโอกาสการเติบโตได้จริงๆ โดยหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับนักลงทุนที่กำลังมองหาวิธีจัดการกับความผันผวนของตลาดอย่างมืออาชีพ
บริหารความเสี่ยง คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ?
พูดง่ายๆ การบริหารความเสี่ยงหมายถึงการวางแผนและจัดการวิธีลดโอกาสที่จะเสียเงินลงทุนมากเกินไปในตลาดที่มีความผันผวนสูง สำหรับผม นี่คือการเสริมเกราะให้พอร์ตของเรามีภูมิคุ้มกัน ไม่ใช่แค่หวังรวยเร็วอย่างเดียว เพราะตลาดไม่ได้ใจดีตลอดเวลา และเมื่อความผันผวนมาเยือน ใครที่ไม่มีระบบจัดการความเสี่ยงที่ดี ก็อาจเจ็บตัวหนัก ๆ ได้
จุดตั้งตัดขาดทุน (Stop Loss) ที่นักลงทุนไทยต้องเข้าใจ
หยุดเสียไว้ก่อน คือหัวใจของการตั้งจุดตัดขาดทุน จุดนี้ผมใช้มาตลอดและแนะนำว่าทุกคนควรเลือกใช้ จุดตัดขาดทุนก็คือระดับราคาที่เรากำหนดไว้ล่วงหน้าเพื่อขายหุ้นหรือสินทรัพย์นั้นๆ ออกเมื่อราคาตกลงมาถึงจุดที่รับได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ขาดทุนลึกเกินไป การตั้งจุดนี้ไม่ควรตั้งตามอารมณ์หรือหวังว่าจะกลับใจเร็ว แต่ควรตั้งจากการวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ เช่น ใช้สถิติความผันผวนของหุ้นและปัจจัยพื้นฐานประกอบ
การกระจายพอร์ตลงทุน ลดความเสี่ยงหลายมุม
คำพูดที่ว่า “อย่าใส่ไข่ทั้งหมดในตะกร้าใบเดียว” ใช้ได้จริงเสมอ กับการลงทุนที่ผมค้นพบว่าการแบ่งเงินลงทุนไปยังสินทรัพย์หลายประเภท ช่วยลดความเสียหายเมื่อสินทรัพย์หนึ่งลงแรง อีกทั้งยังเป็นการกระจายความเสี่ยงในมิติที่แตกต่างกัน เช่น ตลาดหุ้น หุ้นกู้ อสังหาริมทรัพย์ หรือทองคำ สัดส่วนที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่เรายอมรับได้และเป้าหมายการลงทุน
การเลือกใช้เครื่องมือทางการเงินเพื่อบริหารความเสี่ยง
นอกจากการตั้ง Stop Loss และกระจายพอร์ตแล้ว การใช้เครื่องมือทางการเงิน เช่น ออปชั่น ฟิวเจอร์ส หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยประคับประคองพอร์ตในช่วงตลาดผันผวนได้ แต่เครื่องมือเหล่านี้มีความซับซ้อนและต้องการความรู้สูง จึงเหมาะกับนักลงทุนที่มีประสบการณ์และเข้าใจความเสี่ยงอย่างถ่องแท้
เทคนิคในการบริหารความเสี่ยงที่อยากแนะนำสำหรับนักลงทุนไทย
– ตั้ง Stop Loss อย่างมีวินัยและไม่เคลื่อนไหวตามอารมณ์
– กระจายสินทรัพย์ในพอร์ตให้สมดุลระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทน
– ศึกษาและเข้าใจเครื่องมือทางการเงินก่อนใช้งานจริง
– ประเมินสถานการณ์ตลาดและปรับพอร์ตอย่างสม่ำเสมอ
– รักษาจิตใจให้สงบและไม่ตื่นตระหนกกับความผันผวนชั่วคราว
การบริหารความเสี่ยงไม่ได้หมายความว่าเราจะทำผลตอบแทนได้มากขึ้นในทุกครั้ง แต่เป็นเรื่องของการปกป้องทุนให้ได้มากที่สุด และรักษาความต่อเนื่องในการลงทุนระยะยาว ซึ่งกว่า 90% ของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมักมีระบบจัดการความเสี่ยงที่ดีเป็นพื้นฐาน
ท้ายที่สุด อย่าลืมว่าในตลาดที่ไม่มั่นคงนี้ ความรู้ ความเข้าใจ และการฝึกฝนทักษะบริหารความเสี่ยง จะทำให้เราก้าวผ่านความผันผวนได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยมากขึ้น
หวังว่าบทความนี้จะส่งเสริมให้นักลงทุนไทยทุกคนมีเครื่องมือและความรู้ในมือที่แข็งแรง พร้อมที่จะเดินหน้าในเส้นทางการลงทุนอย่างมั่นใจแม้ในช่วงเวลาที่ตลาดยากลำบากก็ตาม
คำชี้แจง
เนื้อหาบนเว็บไซต์นี้สร้างขึ้นโดย ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และได้รับการตรวจสอบความถูกต้องจากระบบ AI ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลและงานวิจัยล่าสุดแบบ Real-time อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลในการทำความเข้าใจข้อมูลทุกครั้ง ไม่ว่าเนื้อหานั้นจะถูกสร้างโดยมนุษย์หรือ AI ก็ตาม
ทีมงาน NowTrd.com มุ่งมั่นที่จะใช้ AI เป็นเครื่องมือเพื่อมอบข้อมูลที่มีคุณภาพและสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนแก่ผู้อ่านทุกท่านอย่างมีความรับผิดชอบต่อความถูกต้อง หากพบข้อผิดพลาดหรือจุดบกพร่องใดๆ โปรดแจ้งให้เราทราบที่ [email protected] เพื่อร่วมพัฒนาเนื้อหาให้ดียิ่งขึ้น
ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจ