สวัสดีครับ วันนี้ผมอยากจะเล่าถึงกลยุทธ์การลงทุนที่เป็นหนึ่งในวิธีที่หลาย ๆ นักลงทุนชาวไทยให้ความสนใจมากขึ้นในปี 2024 นั่นก็คือ “กลยุทธ์ Dollar-Cost Averaging” หรือเรียกง่าย ๆ ว่า DCA ซึ่งแปลตรงตัวว่า การลงทุนด้วยจำนวนเงินเท่า ๆ กันในช่วงเวลาปกติไม่ว่าตลาดจะขึ้นหรือลงก็ตาม
ก่อนอื่นเลย ผมอยากให้คุณลองจินตนาการว่าเราไม่ต้องเป็นนักลงทุนที่คอยจับตาดูตลาดตลอดเวลา หรือพยายามคาดเดาว่าตอนนี้ควรจะซื้อหรือขาย มันเหมือนกับการเดินเล่นสะสมเงินบาทอย่างสม่ำเสมอในกระเป๋าใบนึงในทุกปี คอยเก็บเงินทีละนิดทีละหน่อยอย่างใจเย็น นี่แหละครับคือแก่นแท้ของกลยุทธ์ DCA
หลักการง่าย ๆ ของ DCA คือการลงทุนจำนวนเงินเท่า ๆ กันในช่วงเวลาที่กำหนด อย่างเช่น ทุกเดือน ทุกไตรมาส หรือทุกปี โดยไม่สนใจว่าสภาพตลาดในช่วงเวลานั้นจะเป็นอย่างไร ด้วยเหตุนี้เองมันจึงช่วยลดความเสี่ยงของการลงทุนในจังหวะที่ตลาดมีความผันผวนสูงได้อย่างดี
ผมเองในฐานะนักลงทุนที่ผ่านประสบการณ์ทั้งขึ้นและลงในตลาดหุ้นไทยและตลาดต่างประเทศมาก็รู้สึกได้ว่ากลยุทธ์นี้ช่วยลดความกังวลและความเครียดได้เยอะ เพราะเราไม่จำเป็นต้องเหนื่อยกับการพยายามจับจังหวะตลาด หรือกลัวว่าจะซื้อที่จุดสูงเกินไป
มาดูกันว่าการใช้ DCA มีข้อดีอะไรบ้างที่ทำให้นักลงทุนโดยเฉพาะมือใหม่ควรพิจารณา
1. ลดความเสี่ยงจากการซื้อขายผิดจังหวะตลาด
เนื่องจากเราลงทุนด้วยจำนวนเงินเท่า ๆ กัน ทำให้เมื่อราคาหุ้นหรือสินทรัพย์ลดต่ำเราจะได้ซื้อในราคาถูกมากขึ้น และเมื่อราคาสูง เราก็จะได้ซื้อน้อยลง วิธีนี้จึงเรียกว่า “การเฉลี่ยต้นทุน” ช่วยให้ต้นทุนการลงทุนโดยรวมลดลงเมื่อเวลาผ่านไป
2. สร้างวินัยในการลงทุน
การกำหนดจำนวนเงินและระยะเวลาที่ชัดเจนทำให้นักลงทุนต้องลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นช่วงตลาดตกหรือขึ้น นี่ช่วยเสริมวินัยและทิศทางการเงินที่ดี
3. เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่และคนที่มีงบประมาณจำกัด
เพราะไม่จำเป็นต้องมีเงินก้อนใหญ่เพื่อเริ่มลงทุน ค่อย ๆ เก็บสะสมทีละน้อยก็สามารถสร้างพอร์ตลงทุนได้ในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม DCA ก็ไม่ได้ปราศจากข้อจำกัดเช่นกัน
– หากตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง การลงทุนครั้งใหญ่ครั้งเดียว (Lump Sum) อาจให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า
– นักลงทุนต้องมีความอดทนสูง เพื่อรอผลลัพธ์ในระยะยาว และไม่ล้มเลิกระหว่างทาง
– ต้องเลือกสินทรัพย์ที่เหมาะสมและมีโอกาสเติบโตในระยะยาว มิฉะนั้นผลตอบแทนอาจไม่คุ้มค่ากับการลงทุน
ในแง่ของนักลงทุนชาวไทย การใช้ DCA ถือเป็นการผสมผสานระหว่างความปลอดภัยและประสิทธิภาพ เพราะตลาดหุ้นและสินทรัพย์ในประเทศไทยยังมีความผันผวนอยู่ และใครที่อยากลงทุนระยะยาวเพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของตลาด ก็ต้องใช้วิธีนี้ตลอดเวลาอย่างมีวินัย
ผมขอยกตัวอย่างง่าย ๆ ให้เห็นภาพ สมมติว่าเราลงทุน 5,000 บาททุกเดือนในหุ้นตัวหนึ่ง ไม่ว่าจะราคาหุ้นจะขึ้นหรือลง ถ้าเราทำอย่างต่อเนื่อง 10 ปี เราจะได้ทั้งจำนวนหุ้นที่หลากหลายและต้นทุนเฉลี่ยที่ปรับสมดุลกับราคาตลาดในแต่ละช่วง ซึ่งเมื่อตลาดปรับขึ้นในระยะยาว เราก็จะเห็นผลตอบแทนที่น่าพอใจ
กลยุทธ์นี้ยังเหมาะกับการลงทุนผ่านกองทุนรวม หรือกองทุนดัชนี (Index Fund) ที่ช่วยให้คุณไม่ต้องตัดสินใจเองทุกครั้ง และเป็นการลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง
สุดท้ายนี้ ขอให้ท่านลองพิจารณาดูว่า Dollar-Cost Averaging เป็นทางเลือกที่ไม่ซับซ้อนสำหรับการลงทุนที่ต้องการความมั่นคงและลดความเสี่ยงในระยะยาวสำหรับผู้ที่เริ่มต้น และเป็นเครื่องมือที่นักลงทุนทุกคนสามารถนำไปใช้เสริมแกร่งพอร์ตของตัวเองได้
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณมองเห็นคุณค่าของการลงทุนอย่างสม่ำเสมอและมีวินัยในระยะยาวนะครับ
คำชี้แจง
เนื้อหาบนเว็บไซต์นี้สร้างขึ้นโดย ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และได้รับการตรวจสอบความถูกต้องจากระบบ AI ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลและงานวิจัยล่าสุดแบบ Real-time อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลในการทำความเข้าใจข้อมูลทุกครั้ง ไม่ว่าเนื้อหานั้นจะถูกสร้างโดยมนุษย์หรือ AI ก็ตาม
ทีมงาน NowTrd.com มุ่งมั่นที่จะใช้ AI เป็นเครื่องมือเพื่อมอบข้อมูลที่มีคุณภาพและสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนแก่ผู้อ่านทุกท่านอย่างมีความรับผิดชอบต่อความถูกต้อง หากพบข้อผิดพลาดหรือจุดบกพร่องใดๆ โปรดแจ้งให้เราทราบที่ [email protected] เพื่อร่วมพัฒนาเนื้อหาให้ดียิ่งขึ้น
ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจ