การลงทุนในตลาดหุ้นหรือสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง มักสร้างความกังวลใจให้กับนักลงทุนไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อราคาตลาดเปลี่ยนแปลงแบบไม่แน่นอนในทุกวัน เอาล่ะ วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังถึงหนึ่งในกลยุทธ์ลงทุนที่ผมใช้เอง และอยากแนะนำให้ใครก็ตามที่อยากเก็บเกี่ยวผลตอบแทนอย่างมีวินัยในระยะยาวได้ลองนำไปใช้ดู นั่นคือกลยุทธ์ที่ชื่อว่า Dollar-Cost Averaging หรือที่บ้านเราเรียกกันง่ายๆ ว่า “การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน” นั่นแหละ
ผมต้องบอกก่อนเลยว่าวิธีการนี้ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้คุณรวยได้ในวันเดียว แต่มันออกแบบมาเพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากราคาที่ขึ้นลงแบบเหวี่ยงซึ่งทำให้หลายคนเลือกที่จะถอยหลังมากก้าวหน้า ผมพูดตามตรงว่า การลงทุนแบบ DCA เป็นการลงทุนที่ต้องให้เวลากับมัน และมีระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัดต่อการลงทุนในแต่ละงวดอย่างสม่ำเสมอ
แล้ว Dollar-Cost Averaging คืออะไรล่ะ? มันก็ง่ายๆ นี่แหละ คุณลงทุนด้วยจำนวนเงินเท่าเดิมในช่วงเวลาที่กำหนด เช่น เดือนละ 5,000 บาท หรือทุกสัปดาห์ 1,000 บาท โดยไม่สนใจราคาว่าสูงหรือต่ำ เพราะวิธีนี้จะช่วยให้คุณซื้อสินทรัพย์จำนวนหุ้นที่แตกต่างกัน ในเมื่อตลาดราคาหุ้นต่ำ คุณจะได้หุ้นมากกว่า ในตอนที่ราคาสูง คุณจะได้หุ้นน้อยกว่า สรุปง่ายๆ ก็คือ คุณจะได้ราคาต้นทุนเฉลี่ยที่เหมาะสมในระยะยาว
ลองนึกภาพแบบนี้นะครับ สมมุติว่าคุณเริ่มลงทุนในหุ้น ABC ด้วยเงิน 5,000 บาททุกเดือน เดือนแรกราคาหุ้นอยู่ที่ 50 บาท คุณจะได้หุ้น 100 หุ้น ในเดือนถัดไปถ้าราคาหุ้นลดลงเหลือ 25 บาท ด้วยเงินจำนวนเดียวกัน คุณจะได้หุ้น 200 หุ้นเลย ทีนี้ราคาต้นทุนเฉลี่ยก็จะลงมาอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ แถมคุณยังลดความเสี่ยงจากการซื้อหุ้นในราคาสูงในครั้งเดียวด้วย
ที่สำคัญกลยุทธ์นี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยง แต่ยังสร้างวินัยการออมอีกด้วย ด้วยการตั้งงบประมาณที่ชัดเจนและลงทุนอย่างสม่ำเสมอ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่นักลงทุนมือใหม่หลายคนมักลืมคิดถึง นั่นเพราะหลายคนมองแต่ความหวือหวาของตลาดหรืออยากรวยเร็วเกินไป จนทำให้ขาดความต่อเนื่องในการลงทุน
แล้วทำไมเราต้องยึดติดกับการลงทุนจำนวนเท่าเดิมล่ะ? เพราะการลงทุนจำนวนเท่า ๆ กันในทุกงวดช่วยเราลดแรงกดดันทางจิตใจในเวลาที่ราคาหุ้นขึ้นสูง การที่เราจะต้องซื้อหุ้นจำนวนมากในราคาที่แพงก็คงไม่ใช่เรื่องสนุกสำหรับใครนัก และในทางกลับกัน หากราคาหุ้นลดลงอย่างมากนี่แหละคือโอกาสให้เราได้หุ้นเยอะขึ้นในงบประมาณเดิมของเรา นั่นเป็นกลไกสำคัญของกลยุทธ์นี้ที่หลายคนอาจมองข้ามไป
ต่อมาเรื่องสำคัญคือความเชื่อมั่นกับแผนการลงทุนที่วางไว้ เราต้องไม่แกว่งไปตามอารมณ์ตลาดที่ขึ้นลงวันต่อวัน เพราะถ้าคุณหยุดลงทุนตอนที่ตลาดราคาตก หรือซื้อเพิ่มตอนที่ราคาขึ้นสูง การลงทุนแบบ DCA ก็จะไม่ได้ผลเท่าที่ควร ดังนั้นการลงทุนแบบนี้ต้องต่อเนื่องและไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
หลายคนสงสัยว่าจะต้องใช้เวลากี่นานกว่าจะเห็นผล? คำตอบก็คือ “ระยะยาว” การลงทุนแบบ DCA เหมาะสำหรับการตั้งเป้าหมายที่ต้องการความมั่นคงและเติบโตแบบช้าๆ แต่มั่นคง เช่น การเก็บเงินเพื่ออนาคตการศึกษา หรือการเกษียณอายุที่คุณไม่อยากเสี่ยงก็แค่คุณลงมือทำอย่างสม่ำเสมอเท่านั้นเอง
ในแง่ของการนำไปใช้ในตลาดหุ้นไทย คุณสามารถเลือกลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดี หรือแม้แต่กองทุนรวมกองทุนหุ้นที่ซื้อขายง่ายผ่านออนไลน์ก็ได้เช่นกัน และอย่าลืมตรวจสอบค่าใช้จ่ายในการซื้อขาย รวมถึงค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่อาจจะมีผลกระทบกับผลตอบแทนให้อยู่ในระดับต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับรายได้จากการลงทุน
สรุปใจความสำคัญง่าย ๆ คือ กลยุทธ์ Dollar-Cost Averaging นี้จะเหมาะกับใคร?
– คนที่ต้องการลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดหุ้น
– คนที่ยังไม่มั่นใจว่าจะเลือกจังหวะลงทุนอย่างไรดี
– คนที่อยากฝึกสร้างวินัยการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
– คนที่มีเป้าหมายทางการเงินระยะยาว
ลองจินตนาการดูนะครับว่า การมีแผนลงทุนแบบนี้จะช่วยให้คุณเดินทางสู่เป้าหมายทางการเงินได้อย่างมั่นคงกว่าเดิมอย่างไร และถ้าคุณเริ่มวันนี้ก็ยังไม่สาย เพราะโลกการลงทุนมันไม่มีทางลัดหรือทางง่าย แต่ทุกก้าวของคุณ คือก้าวสู่ความมั่งคั่งในอนาคตที่แท้จริง
จากประสบการณ์ส่วนตัวของผม ที่แนะนำให้เพื่อนและลูกศิษย์ทั้งหลายลองใช้วิธีนี้ ปรากฏว่าเขาสามารถสร้างความมั่นคงในพอร์ตของเขาได้ เห็นผลในระยะยาวแม้ตลาดจะเป็นขาลงหรือขาขึ้นก็ตาม กลยุทธ์แบบนี้ช่วยให้ใครก็ได้ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือมือโปร จะผ่านช่วงตลาดผันผวนแบบไหนก็ยังเดินหน้าต่อไปได้แบบไม่หัวเสีย
ท้ายที่สุด อย่าลืมตรวจสอบและทบทวนแผนการลงทุนของคุณอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่ายังสอดคล้องกับเป้าหมายชีวิตและสถานการณ์ทางการเงินของคุณ
ขอให้ทุกคนโชคดีกับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุนนี้นะครับ ที่นี่คือทางเลือกที่ฉลาดสำหรับคนที่ต้องการลงทุนแบบมั่นคง นิ่ง และมีวินัยจริงจัง
อ้างอิง: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย SET Invest Now – https://www.setinvestnow.com/th/beginner/growing-portfolio-dca
คำชี้แจง
เนื้อหาบนเว็บไซต์นี้สร้างขึ้นโดย ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และได้รับการตรวจสอบความถูกต้องจากระบบ AI ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลและงานวิจัยล่าสุดแบบ Real-time อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลในการทำความเข้าใจข้อมูลทุกครั้ง ไม่ว่าเนื้อหานั้นจะถูกสร้างโดยมนุษย์หรือ AI ก็ตาม
ทีมงาน NowTrd.com มุ่งมั่นที่จะใช้ AI เป็นเครื่องมือเพื่อมอบข้อมูลที่มีคุณภาพและสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนแก่ผู้อ่านทุกท่านอย่างมีความรับผิดชอบต่อความถูกต้อง หากพบข้อผิดพลาดหรือจุดบกพร่องใดๆ โปรดแจ้งให้เราทราบที่ [email protected] เพื่อร่วมพัฒนาเนื้อหาให้ดียิ่งขึ้น
ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจ