Wednesday, December 10, 2025
31.4 C
Bangkok

คำศัพท์เทรดหุ้น เข้าใจศัพท์เทคนิค เทรดอย่างมั่นใจ

สวัสดีครับเพื่อนๆ นักลงทุนทุกคน! ผมเชื่อว่าหลายๆ คนที่กำลังสนใจ หรือ กำลังเริ่มต้นเข้าสู่โลกของการลงทุนในหุ้น คงจะรู้สึกตื่นเต้นปนหวาดหวั่นอยู่ไม่น้อย เหมือนกับตอนผมเริ่มต้นใหม่ๆ นั่นแหละครับ สิ่งหนึ่งที่ผมพบว่าเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับมือใหม่ (รวมถึงตัวผมเองในตอนนั้น) ก็คือ “ภาษา” ครับ ใช่แล้วครับ ภาษาที่ใช้ในวงการนี้ มันช่างแตกต่างจากภาษาที่เราใช้ในชีวิตประจำวันเสียเหลือเกิน

ลองนึกภาพตามนะครับ เรากำลังอ่านบทวิเคราะห์หุ้นอยู่ดีๆ ก็เจอคำว่า “Bid”, “Offer”, “Market Order”, “Limit Order” โผล่ขึ้นมาเต็มไปหมด แล้วแบบนี้เราจะเข้าใจได้ยังไงล่ะ? ผมเข้าใจความรู้สึกนั้นดีครับ เพราะผมเองก็เคยผ่านจุดนั้นมาแล้ว

วันนี้ผมเลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ พร้อมทั้งไขข้อข้องใจเกี่ยวกับคำศัพท์เทคนิคต่างๆ ที่ใช้ในการเทรดหุ้น เพื่อช่วยให้เพื่อนๆ สามารถก้าวเข้าสู่โลกแห่งการลงทุนได้อย่างมั่นใจ ไม่หลงทาง และไม่ต้องเสียเวลาไปกับการงมโข่งหาความหมายของศัพท์เหล่านี้อีกต่อไป ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย!

ทำความรู้จักกับคำศัพท์พื้นฐานในการเทรดหุ้น

ก่อนที่เราจะไปลงลึกในเรื่องของกลยุทธ์ หรือ เทคนิคการลงทุนต่างๆ สิ่งสำคัญที่สุดที่เราต้องทำความเข้าใจก่อนเลยก็คือ “คำศัพท์” ครับ เพราะคำศัพท์เหล่านี้เปรียบเสมือน “กุญแจ” ที่จะไขประตูสู่ความสำเร็จในการลงทุน ถ้าเราไม่เข้าใจภาษา เราก็คงไม่สามารถเข้าใจกลไกการทำงานของตลาดหุ้นได้อย่างแท้จริง

เอาล่ะครับ มาเริ่มกันที่คำศัพท์พื้นฐานที่เราควรรู้จักกันก่อนเลยดีกว่า

  • Bid (ราคาเสนอซื้อ): ง่ายๆ เลยครับ Bid ก็คือ ราคาที่ “เรา” ยินดีที่จะ “ซื้อ” หุ้นตัวนั้นๆ ณ เวลานั้นๆ เช่น ถ้าเราเห็น Bid ของหุ้น A อยู่ที่ 10 บาท นั่นหมายความว่า มีคนพร้อมที่จะซื้อหุ้น A ในราคา 10 บาท ณ ขณะนั้น
  • Ask/Offer (ราคาเสนอขาย): ตรงข้ามกับ Bid ครับ Ask หรือ Offer ก็คือ ราคาที่ “เจ้าของหุ้น” ยินดีที่จะ “ขาย” หุ้นตัวนั้นๆ ให้กับเรา เช่น ถ้าเราเห็น Ask ของหุ้น A อยู่ที่ 10.50 บาท นั่นหมายความว่า มีคนพร้อมที่จะขายหุ้น A ให้เราในราคา 10.50 บาท ณ ขณะนั้น
  • Spread (ส่วนต่างราคา): Spread คือ ส่วนต่างระหว่างราคา Bid และ Ask ซึ่งเป็นค่าตอบแทนของ Market Maker หรือ ผู้ดูแลสภาพคล่อง ยกตัวอย่างเช่น ถ้า Bid ของหุ้น A อยู่ที่ 10 บาท และ Ask อยู่ที่ 10.50 บาท Spread ก็คือ 0.50 บาท
  • Market Order (คำสั่งซื้อขายที่ราคาตลาด): เป็นคำสั่งซื้อขายที่เราต้องการให้ ” khớp ” ทันที ณ ราคาตลาดปัจจุบัน โดยที่เราไม่ได้ระบุราคาไว้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว คำสั่ง Market Order มักจะ ” khớp ” ที่ราคา Ask (ถ้าเป็นคำสั่งซื้อ) หรือ Bid (ถ้าเป็นคำสั่งขาย)
  • Limit Order (คำสั่งซื้อขายที่ราคาจำกัด): เป็นคำสั่งซื้อขายที่เรา “ระบุราคา” ไว้ โดยคำสั่งจะ ” khớp ” ก็ต่อเมื่อมีคนเสนอซื้อหรือขายในราคาที่เราต้องการเท่านั้น เช่น ถ้าเราต้องการซื้อหุ้น A ที่ราคา 10 บาท และส่งคำสั่ง Limit Order ไป คำสั่งนี้จะ ” khớp ” ก็ต่อเมื่อมีคนเสนอขายหุ้น A ที่ราคา 10 บาท เท่านั้น
  • Volume (ปริมาณการซื้อขาย): หมายถึง จำนวนหุ้นที่ถูกซื้อขายในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ถึง “สภาพคล่อง” ของหุ้นตัวนั้นๆ ถ้าหุ้นตัวไหนมี Volume สูง ก็แสดงว่ามีคนสนใจซื้อขายหุ้นตัวนั้นเยอะ ทำให้เราสามารถซื้อขายได้ง่าย ไม่ติดขัด
  • Market Cap (มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด): เป็นมูลค่ารวมของหุ้นทั้งหมดของบริษัท คำนวณได้จาก ราคาหุ้น x จำนวนหุ้นทั้งหมด ซึ่ง Market Cap มักถูกใช้เป็นเกณฑ์ในการแบ่งขนาดของบริษัท เช่น บริษัทขนาดใหญ่ (Large Cap), บริษัทขนาดกลาง (Mid Cap), และ บริษัทขนาดเล็ก (Small Cap)

เจาะลึกคำศัพท์เทคนิค สำหรับนักลงทุนขั้นสูง

หลังจากที่เราคุ้นเคยกับคำศัพท์พื้นฐานกันไปบ้างแล้ว คราวนี้เรามาต่อกันที่คำศัพท์เทคนิค ที่มักจะปรากฏในบทวิเคราะห์ หรือ ข่าวสารเกี่ยวกับหุ้นกันบ้าง ซึ่งคำศัพท์เหล่านี้อาจจะดูซับซ้อน แต่ถ้าเราเข้าใจความหมายของมัน ก็จะช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์ และ ตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

  • P/E Ratio (อัตราส่วนราคาต่อกำไร): เป็นอัตราส่วนที่ใช้ประเมินมูลค่าของหุ้น โดยคำนวณจาก ราคาหุ้น / กำไรสุทธิต่อหุ้น P/E Ratio จะบอกเราว่า เราต้องจ่ายเงินกี่บาท เพื่อที่จะได้กำไร 1 บาทจากหุ้นตัวนั้น
  • Dividend Yield (อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล): เป็นอัตราส่วนที่แสดงถึงผลตอบแทนจากเงินปันผล คำนวณจาก เงินปันผลต่อหุ้น / ราคาหุ้น ซึ่ง Dividend Yield จะช่วยให้เราเปรียบเทียบผลตอบแทนจากเงินปันผลของหุ้นแต่ละตัวได้
  • ROE (Return on Equity): เป็นอัตราส่วนที่วัดประสิทธิภาพในการทำกำไรของบริษัท โดยคำนวณจาก กำไรสุทธิ / ส่วนของผู้ถือหุ้น ROE จะบอกเราว่า บริษัทสามารถนำเงินลงทุนของผู้ถือหุ้นไปสร้างผลกำไรได้มากน้อยแค่ไหน
  • EPS (Earnings per Share): หมายถึง กำไรสุทธิต่อหุ้น คำนวณจาก กำไรสุทธิ / จำนวนหุ้นทั้งหมด EPS เป็นตัวบ่งชี้ถึงความสามารถในการทำกำไรของบริษัท
  • BVPS (Book Value per Share): หมายถึง มูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น คำนวณจาก ส่วนของผู้ถือหุ้น / จำนวนหุ้นทั้งหมด BVPS แสดงให้เห็นถึงมูลค่าที่แท้จริงของบริษัท ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง
  • Moving Average (ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่): เป็นเครื่องมือทางเทคนิคที่ใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มของราคาหุ้น โดยคำนวณจากค่าเฉลี่ยของราคาหุ้นในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่ง Moving Average จะช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมของแนวโน้มราคา และ จุดกลับตัวของราคาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
  • RSI (Relative Strength Index): เป็นเครื่องมือทางเทคนิคที่ใช้วัด “โมเมนตัม” ของราคาหุ้น โดย RSI จะมีค่าอยู่ระหว่าง 0 – 100 ซึ่งค่าที่สูงกว่า 70 บ่งชี้ว่าหุ้นอยู่ในภาวะ ” Overbought ” (ซื้อมากเกินไป) ส่วนค่าที่ต่ำกว่า 30 บ่งชี้ว่าหุ้นอยู่ในภาวะ ” Oversold ” (ขายมากเกินไป)
  • MACD (Moving Average Convergence Divergence): เป็นเครื่องมือทางเทคนิคที่ใช้ในการวิเคราะห์โมเมนตัม และ แนวโน้มของราคาหุ้น โดย MACD จะเกิดจากการนำค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 2 เส้น มาลบกัน ซึ่งจะช่วยให้เรามองเห็นสัญญาณซื้อ หรือ ขาย ได้อย่างชัดเจน

เทรดหุ้นอย่างมั่นใจ ด้วยความเข้าใจใน “ภาษา” ของตลาด

เป็นยังไงกันบ้างครับ พอจะเข้าใจคำศัพท์ที่ใช้ในการเทรดหุ้นกันมากขึ้นบ้างหรือยัง? ผมหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ และ ช่วยให้เพื่อนๆ สามารถก้าวเข้าสู่โลกแห่งการลงทุนได้อย่างมั่นใจมากขึ้นนะครับ

อย่าลืมนะครับ การลงทุนมีความเสี่ยง เราควรศึกษาหาความรู้ และ ทำความเข้าใจใน “ภาษา” ของตลาด ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน เพื่อลดความเสี่ยง และ เพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดี

สุดท้ายนี้ ขอให้เพื่อนๆ ทุกคนโชคดีในการลงทุนนะครับ!

Hot this week

PMI/ISM อ่านอย่างไร คู่มืออ่านดัชนีผู้จัดการจัดซื้อสำหรับเทรดเดอร์

PMI/ISM ไม่ใช่ตัวเลขสวยๆ ที่โผล่ในปฏิทินเศรษฐกิจเดือนละครั้ง แต่คือเสียงจากผู้จัดการจัดซื้อที่อยู่หน้าโรงงานและออฟฟิศจริงๆ บทความนี้จะพาไล่ตั้งแต่พื้นฐานว่า PMI คืออะไร ISM ต่างจาก PMI เจ้าอื่นอย่างไร กลไก 50 จุดแปลว่าอะไร รวมถึงวิธีอ่าน PMI/ISM แบบทีละขั้นสำหรับเทรดเดอร์ทองและ Forex ที่ต้องการมองเกมเศรษฐกิจให้ขาดกว่าเดิม

ลูปจัดการอารมณ์ที่กั้นระหว่างเทรดเดอร์รอดกับพอร์ตพัง

ส่วนใหญ่พอร์ตไม่ได้พังเพราะกราฟ แต่พังเพราะเทรดเดอร์ไม่เคยรู้เลยว่า ช่วงไหน “ระบบคุมมือ” ช่วงไหน “อารมณ์คุมมือ”ไม้ที่เข้าเพราะ FOMO ดูเผิน ๆ ก็เหมือนไม้ปกติ แค่เห็นกราฟวิ่ง เห็นคนอื่นโชว์กำไร ก็รีบกดโดยไม่ทันเช็ก RR...

หลายครั้งไม่ได้แพ้ที่ “ทิศทางราคา” แต่แพ้ที่ “เหตุผลในการเข้าไม้”

ฝั่งหนึ่งเข้าเพราะกลัวตกรถ ราคาไปทางไหนก็วิ่งตาม อีกฝั่งหนึ่งเข้าเพราะรู้ชัดว่า ตรงนี้คือโซนได้เปรียบของตัวเอง Risk/Reward คุ้ม และยอมรับผลลัพธ์ได้ถ้าเราเคยไล่ซื้อทุกแท่งเขียว เคยเห็นคนอื่นกำไรแล้วทนไม่ได้ เคยเข้าตามฟีลโดยไม่รู้จุดตัดขาดทุน แปลว่าเรากำลังเล่นเกมแบบ “แมงเม่า / นักพนัน” อยู่เงียบ ๆแต่...

ทำไม CPI ถึง “สำคัญมาก” ทั้งสำหรับคนทั่วไปและคนเทรด

CPI หรือดัชนีราคาผู้บริโภค ไม่ใช่แค่ตัวเลขในข่าวเศรษฐกิจ แต่มันคือกระจกที่สะท้อนว่าค่าครองชีพกำลังกัดกินเงินในกระเป๋าเราเร็วแค่ไหน บทความนี้ชวนคุณมาทำความเข้าใจ CPI ตั้งแต่พื้นฐาน วิธีคิด ไปจนถึงการเอาไปใช้วางแผนการเงิน การทำธุรกิจ และการเทรดในโลกจริง

ด่วน! เมื่อตลาด Futures “CME Group” ล่ม: เกิดอะไรขึ้น สาเหตุคืออะไร และกระทบพอร์ตคุณแค่ไหน?

ลองจินตนาการว่าคุณกำลังถือสถานะสัญญาฟิวเจอร์ส (Futures) อยู่ แล้วจู่ๆ กราฟหยุดนิ่ง คำสั่งซื้อขายส่งไม่ได้ หน้าจอค้างไปดื้อๆ... นี่คือฝันร้ายของเทรดเดอร์เมื่อ "ตลาดล่ม" ล่าสุดเกิดประเด็นเกี่ยวกับความขัดข้องของ...

Topics

PMI/ISM อ่านอย่างไร คู่มืออ่านดัชนีผู้จัดการจัดซื้อสำหรับเทรดเดอร์

PMI/ISM ไม่ใช่ตัวเลขสวยๆ ที่โผล่ในปฏิทินเศรษฐกิจเดือนละครั้ง แต่คือเสียงจากผู้จัดการจัดซื้อที่อยู่หน้าโรงงานและออฟฟิศจริงๆ บทความนี้จะพาไล่ตั้งแต่พื้นฐานว่า PMI คืออะไร ISM ต่างจาก PMI เจ้าอื่นอย่างไร กลไก 50 จุดแปลว่าอะไร รวมถึงวิธีอ่าน PMI/ISM แบบทีละขั้นสำหรับเทรดเดอร์ทองและ Forex ที่ต้องการมองเกมเศรษฐกิจให้ขาดกว่าเดิม

ลูปจัดการอารมณ์ที่กั้นระหว่างเทรดเดอร์รอดกับพอร์ตพัง

ส่วนใหญ่พอร์ตไม่ได้พังเพราะกราฟ แต่พังเพราะเทรดเดอร์ไม่เคยรู้เลยว่า ช่วงไหน “ระบบคุมมือ” ช่วงไหน “อารมณ์คุมมือ”ไม้ที่เข้าเพราะ FOMO ดูเผิน ๆ ก็เหมือนไม้ปกติ แค่เห็นกราฟวิ่ง เห็นคนอื่นโชว์กำไร ก็รีบกดโดยไม่ทันเช็ก RR...

หลายครั้งไม่ได้แพ้ที่ “ทิศทางราคา” แต่แพ้ที่ “เหตุผลในการเข้าไม้”

ฝั่งหนึ่งเข้าเพราะกลัวตกรถ ราคาไปทางไหนก็วิ่งตาม อีกฝั่งหนึ่งเข้าเพราะรู้ชัดว่า ตรงนี้คือโซนได้เปรียบของตัวเอง Risk/Reward คุ้ม และยอมรับผลลัพธ์ได้ถ้าเราเคยไล่ซื้อทุกแท่งเขียว เคยเห็นคนอื่นกำไรแล้วทนไม่ได้ เคยเข้าตามฟีลโดยไม่รู้จุดตัดขาดทุน แปลว่าเรากำลังเล่นเกมแบบ “แมงเม่า / นักพนัน” อยู่เงียบ ๆแต่...

ทำไม CPI ถึง “สำคัญมาก” ทั้งสำหรับคนทั่วไปและคนเทรด

CPI หรือดัชนีราคาผู้บริโภค ไม่ใช่แค่ตัวเลขในข่าวเศรษฐกิจ แต่มันคือกระจกที่สะท้อนว่าค่าครองชีพกำลังกัดกินเงินในกระเป๋าเราเร็วแค่ไหน บทความนี้ชวนคุณมาทำความเข้าใจ CPI ตั้งแต่พื้นฐาน วิธีคิด ไปจนถึงการเอาไปใช้วางแผนการเงิน การทำธุรกิจ และการเทรดในโลกจริง

ด่วน! เมื่อตลาด Futures “CME Group” ล่ม: เกิดอะไรขึ้น สาเหตุคืออะไร และกระทบพอร์ตคุณแค่ไหน?

ลองจินตนาการว่าคุณกำลังถือสถานะสัญญาฟิวเจอร์ส (Futures) อยู่ แล้วจู่ๆ กราฟหยุดนิ่ง คำสั่งซื้อขายส่งไม่ได้ หน้าจอค้างไปดื้อๆ... นี่คือฝันร้ายของเทรดเดอร์เมื่อ "ตลาดล่ม" ล่าสุดเกิดประเด็นเกี่ยวกับความขัดข้องของ...

ชิปเซมิคอนดักเตอร์ พลิกโฉมรถยนต์ไฟฟ้าและอนาคตการลงทุน

ในยุคที่โลกกำลังเปลี่ยนผ่านอย่างรวดเร็ว รถยนต์ไฟฟ้ากลายเป็นหัวใจสำคัญของการปฏิวัติการจราจรและสิ่งแวดล้อม เรื่องที่หลายคนอาจมองข้ามคือชิปเซมิคอนดักเตอร์ที่อยู่เบื้องหลังการทำงานของรถยนต์ไฟฟ้าเหล่านี้ หลายคนอาจไม่ทราบว่าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์นาโนนี้ ไม่ใช่แค่ส่วนประกอบเล็ก ๆ ธรรมดา แต่มีบทบาทอย่างมากในการเพิ่มประสิทธิภาพ และความปลอดภัยของรถยนต์ไฟฟ้าอย่างไม่น่าเชื่อ วันนี้ผมจะพาคุณไปรู้จักกับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า...

ผลกระทบจากการปิดทำการรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย: ความเสี่ยงและโอกาสที่นักลงทุนไทยควรจับตามอง

- การปิดทำการรัฐบาลสหรัฐฯ อาจทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อการส่งออกและการลงทุนของไทยที่พึ่งพาการค้าและเศรษฐกิจสหรัฐฯ - ความไม่แน่นอนจากการปิดทำการรัฐบาลสหรัฐฯ เปิดโอกาสให้ไทยพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้ากับตลาดอื่นๆ เพื่อลดความเสี่ยงจากภายนอก - นักลงทุนไทยควรระวังความผันผวนของตลาดหุ้นในระยะสั้น แต่ยังควรจับตาดูมาตรการสนับสนุนของรัฐบาลไทยและผลประกอบการบริษัทในประเทศที่จะช่วยหนุนตลาด สถานการณ์การปิดทำการรัฐบาลของสหรัฐอเมริกาที่อาจยืดเยื้อต่อเนื่อง...

ลองรู้จักกลยุทธ์ลงทุน DCA ที่ช่วยให้สบายใจในตลาดผันผวน

ก่อนอื่นเลย ผมอยากจะเล่าให้ฟังเกี่ยวกับกลยุทธ์การลงทุนที่ชื่อว่า DCA หรือ Dollar-Cost Averaging ที่ผมเห็นว่ามันเหมาะมากกับนักลงทุนทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มที่สนใจในตลาดหุ้นและคริปโตในไทยที่ค่าเงินหรือราคามีความผันผวนแบบสุดๆ อย่างที่เราเห็นกันทุกวันนะครับ DCA...
spot_img

Related Articles

Popular Categories

spot_imgspot_img