– ราคาทองคำโลกพุ่งแตะระดับสูงสุดเฉียด 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้นเกือบ 30% ในปีนี้ สะท้อนความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย
– นักวิเคราะห์ชี้ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจจากสงครามการค้าสหรัฐ-จีนและแรงกดดันต่อนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ เป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ
– ราคาทองคำในไทยปรับสูงขึ้นแตะบาทละกว่า 52,000 บาท นักลงทุนไทยนิยมซื้อทองคำแท่งและผลิตภัณฑ์ทองคำลงทุน เพิ่มความมั่นใจ amid ความผันผวนตลาดโลก
ราคาทองคำโลกได้ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบปี โดยราคาทองคำสปอตพุ่งแตะที่ประมาณ 3,508 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลกที่ทำให้นักลงทุนมองหาสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเกือบ 30% นับตั้งแต่ต้นปี ซึ่งเป็นผลจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนที่ยังคงดำเนินต่อไป รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงท่าทีกดดันนโยบายการเงินและบุคคลสำคัญของ FED ความเคลื่อนไหวเหล่านี้ทำให้นักลงทุนเปลี่ยนไปลงทุนในทองคำซึ่งถือว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงเวลาที่ตลาดผันผวน
สำหรับประเทศไทย ราคาทองคำในตลาดภายในประเทศก็มีการปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน โดยราคาทองแท่ง 96.5% ขายในตลาดไทยแตะระดับกว่า 52,000 บาทต่อบาททอง ถือเป็นราคาที่สูงที่สุดในรอบปี นักลงทุนไทยจำนวนมากเลือกซื้อทองคำแท่งและรูปแบบของผลิตภัณฑ์ทองคำลงทุน เช่น เหรียญแท่งทอง เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงและรักษาค่าของเงิน amid ความผันผวนของตลาดและค่าเงินบาทที่เคลื่อนไหวอย่างไม่แน่นอน
นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำชี้ว่า การลงทุนในทองคำในช่วงนี้นอกจากจะเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและนโยบายการเงินแล้ว ยังเป็นการตอบสนองความต้องการสะสมสินทรัพย์ที่มีคุณค่าในระยะยาว และสำหรับนักลงทุนไทยแล้ว ทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่ตอบโจทย์ในเรื่องความคล่องตัวและความคุ้นเคยในการลงทุนที่มีมายาวนานอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์โลกอย่างต่อเนื่อง และวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวราคาทองคำและค่าเงินบาทเพื่อวางแผนการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทองคำจึงยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการปกป้องทรัพย์สิน amid ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ
คำชี้แจง
เนื้อหาบนเว็บไซต์นี้สร้างขึ้นโดย ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และได้รับการตรวจสอบความถูกต้องจากระบบ AI ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลและงานวิจัยล่าสุดแบบ Real-time อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลในการทำความเข้าใจข้อมูลทุกครั้ง ไม่ว่าเนื้อหานั้นจะถูกสร้างโดยมนุษย์หรือ AI ก็ตาม
ทีมงาน NowTrd.com มุ่งมั่นที่จะใช้ AI เป็นเครื่องมือเพื่อมอบข้อมูลที่มีคุณภาพและสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนแก่ผู้อ่านทุกท่านอย่างมีความรับผิดชอบต่อความถูกต้อง หากพบข้อผิดพลาดหรือจุดบกพร่องใดๆ โปรดแจ้งให้เราทราบที่ [email protected] เพื่อร่วมพัฒนาเนื้อหาให้ดียิ่งขึ้น
ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจ