– Greggs ประกาศปรับขึ้นราคาสินค้าอาหารเช้าและขนมอบ เพื่อรับมือกับต้นทุนแรงงานและภาษีที่เพิ่มขึ้นในสหราชอาณาจักร
– ยอดขายของ Greggs ในปี 2024 เพิ่มขึ้น 11.3% ทำให้รายได้รวมทะลุ 2 พันล้านปอนด์เป็นครั้งแรก
– Greggs มีแผนขยายสาขาเพิ่มขึ้น 120 แห่งในปี 2025 พร้อมโอกาสขยายตลาดในภาคใต้ของอังกฤษและบริเวณสวนค้าปลีก ซึ่งอาจมีนัยต่อการนำเข้าสินค้าและเทรนด์อาหารในไทย
ร้านเบเกอรี่สัญชาติอังกฤษอย่าง Greggs ประกาศปรับขึ้นราคาสินค้าอีกครั้งในปี 2024 ซึ่งรวมถึงเมนูอาหารเช้าและขนมอบ เพื่อรับมือกับต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะค่าแรงพนักงานและภาษีประกันสังคมที่บริษัทต้องจ่ายเพิ่มตามงบประมาณปีที่แล้ว การปรับราคาในครั้งนี้จะเริ่มมีผลในวันพฤหัสบดี โดยเมนูอาหารเช้าสองส่วนและสามส่วนจะเพิ่มขึ้น 20 เพนนีต่อชุด นับเป็นการขึ้นราคาครั้งที่สามในปีนี้ ขณะที่ขนมอบ เช่น บิสกิตจะเพิ่มราคาประมาณ 5 เพนนี ในขณะที่สินค้าขายดีอย่างซอสเซจโรลจะยังคงราคาเดิมหลังจากได้ปรับขึ้นไปก่อนหน้าในปีนี้
แม้ว่าการขึ้นราคาจะส่งผลต่อลูกค้าในสหราชอาณาจักร แต่สำหรับตลาดไทย การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นสัญญาณที่น่าสนใจของการเปลี่ยนแปลงต้นทุนในอุตสาหกรรมอาหารสไตล์อังกฤษที่ไทยนิยม นอกจากนี้ Greggs ยังมีแผนขยายสาขาในปี 2025 ถึง 120 สาขา โดยมุ่งเน้นขยายตลาดในภาคใต้ของอังกฤษและบริเวณสวนค้าปลีกและถนนใหญ่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการนำเข้าสินค้าและวัตถุดิบที่ไทยสนใจ รวมถึงเสริมสร้างเทรนด์อาหารและวัฒนธรรมเบเกอรี่จากอังกฤษให้เข้าถึงคนไทยมากขึ้น
Greggs ยังรายงานยอดขายในปี 2024 ที่เติบโตขึ้น 11.3% ทำให้รายได้รวมทะลุ 2 พันล้านปอนด์เป็นครั้งแรก โดย CEO Roisin Currie ระบุว่าการเพิ่มขึ้นของต้นทุนแรงงานและภาษีประกันสังคมอย่างไม่คาดคิดทำให้บริษัทต้องปรับกลยุทธ์ราคาเพื่อรักษาคุณภาพและการขยายธุรกิจ แม้จะมีความกดดันด้านต้นทุน Greggs ยังคงมีแผนที่จะเปิดสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีโอกาสในการขยายตลาดที่มีศักยภาพสูง
สำหรับผู้บริโภคชาวไทยที่ชื่นชอบอาหารสไตล์อังกฤษหรือสนใจเทรนด์เบเกอรี่ Greggs ถือเป็นแบรนด์ที่มีความน่าสนใจและติดตาม เพราะการขยายตลาดและการเปลี่ยนแปลงราคานี้อาจเป็นส่วนหนึ่งของกระแสการเปลี่ยนแปลงภายในอุตสาหกรรมอาหารระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยในอนาคต
คำชี้แจง
เนื้อหาบนเว็บไซต์นี้สร้างขึ้นโดย ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และได้รับการตรวจสอบความถูกต้องจากระบบ AI ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลและงานวิจัยล่าสุดแบบ Real-time อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลในการทำความเข้าใจข้อมูลทุกครั้ง ไม่ว่าเนื้อหานั้นจะถูกสร้างโดยมนุษย์หรือ AI ก็ตาม
ทีมงาน NowTrd.com มุ่งมั่นที่จะใช้ AI เป็นเครื่องมือเพื่อมอบข้อมูลที่มีคุณภาพและสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนแก่ผู้อ่านทุกท่านอย่างมีความรับผิดชอบต่อความถูกต้อง หากพบข้อผิดพลาดหรือจุดบกพร่องใดๆ โปรดแจ้งให้เราทราบที่ [email protected] เพื่อร่วมพัฒนาเนื้อหาให้ดียิ่งขึ้น
ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจ