– Rachel Reeves จำกัดการเข้าถึงกองทุนสำรองฉุกเฉินของกระทรวงการคลังก่อนการประกาศงบประมาณเพื่อควบคุมการใช้จ่ายและลดหนี้สาธารณะ
– งบประมาณใหม่เน้นการลงทุนในสาธารณสุข โครงสร้างพื้นฐาน และการป้องกันประเทศ พร้อมทั้งตั้งเป้าลดอัตราเงินกู้โดยใช้รายได้จากภาษีแทนการกู้ยืม
– นโยบายใหม่นี้ส่งผลกับเศรษฐกิจและตลาดการเงินโลก และมีแรงกดดันให้ต้องปรับวิธีจัดเก็บภาษีและตัดค่าใช้จ่ายร่วมกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ
เรเชล รีฟส์ (Rachel Reeves) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหราชอาณาจักร ประกาศมาตรการเข้มงวดในการจำกัดการใช้กองทุนสำรองฉุกเฉินมูลค่า 9 พันล้านปอนด์ เพื่อรองรับแรงกดดันทางการคลังและป้องกันการกู้ยืมที่เกินความจำเป็นในช่วงก่อนการประกาศงบประมาณใหม่ซึ่งมีกำหนดในวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ มาตรการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามควบคุมงบประมาณให้สอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาวในการลดอัตราส่วนหนี้ต่อรายได้ประชาชาติและจัดการใช้จ่ายภาครัฐให้อยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม
นโยบายใหม่ของรีฟส์เน้นการลงทุนในด้านสาธารณสุข โครงสร้างพื้นฐาน และการป้องกันประเทศรวมถึงการสร้างงานและกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยมีการวางแผนเพิ่มงบประมาณประจำปีของกระทรวงต่าง ๆ ประมาณ 2.3% ในค่าเงินที่แท้จริงกับงบประมาณเดิมของรัฐบาลก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกันก็ลดการพึ่งพาการกู้ยืมโดยให้การใช้จ่ายภาครัฐส่วนใหญ่รับผิดชอบจากรายได้ภาษีแทน
สำหรับประเทศไทยและตลาดไทย นโยบายการคลังของสหราชอาณาจักรภายใต้การนำของรีฟส์อาจมีผลกระทบบ้างในเชิงความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนกับสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่ไทยมีการค้าขายและการลงทุนร่วมกัน การปรับนโยบายภาษีและการเงินของสหราชอาณาจักรอาจทำให้นักลงทุนองค์กรข้ามชาติ รวมถึงบริษัทไทยที่ทำธุรกิจในสหราชอาณาจักร ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจให้เหมาะสม
ทั้งนี้ รีฟส์ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระดับโลก โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดการเงินมีความผันผวนสูง เพื่อสนับสนุนการเติบโตที่ยั่งยืนซึ่งเป็นประเด็นที่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจของไทยในยุคแห่งความไม่แน่นอนนี้ เช่นเดียวกับการตั้งเป้าการบริหารงบประมาณที่เข้มแข็งของสหราชอาณาจักรซึ่งอาจเป็นแนวทางหรือจุดอ้างอิงที่น่าสนใจสำหรับภาครัฐไทยในการบริหารจัดการงบประมาณในอนาคต
คำชี้แจง
เนื้อหาบนเว็บไซต์นี้สร้างขึ้นโดย ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และได้รับการตรวจสอบความถูกต้องจากระบบ AI ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลและงานวิจัยล่าสุดแบบ Real-time อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลในการทำความเข้าใจข้อมูลทุกครั้ง ไม่ว่าเนื้อหานั้นจะถูกสร้างโดยมนุษย์หรือ AI ก็ตาม
ทีมงาน NowTrd.com มุ่งมั่นที่จะใช้ AI เป็นเครื่องมือเพื่อมอบข้อมูลที่มีคุณภาพและสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนแก่ผู้อ่านทุกท่านอย่างมีความรับผิดชอบต่อความถูกต้อง หากพบข้อผิดพลาดหรือจุดบกพร่องใดๆ โปรดแจ้งให้เราทราบที่ [email protected] เพื่อร่วมพัฒนาเนื้อหาให้ดียิ่งขึ้น
ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจ