– Topshop จะกลับมาเปิดขายใน 32 ร้าน John Lewis ทั่วสหราชอาณาจักรในเดือนกุมภาพันธ์ 2026 ขณะที่ Topman จะวางจำหน่ายใน 6 ร้าน
– การกลับมาครั้งนี้เป็นความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง John Lewis และ Topshop ที่มุ่งหวังดึงดูดลูกค้ารุ่นใหม่และสร้างความน่าสนใจให้กับร้านค้าแฟชั่นบนถนนสายหลักอีกครั้ง
– แม้ Topshop จะประสบปัญหาระหว่างช่วงโควิด-19 และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการช็อปปิ้ง แต่ความร่วมมือครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นโอกาสสำคัญในการคืนความนิยมและฟื้นฟูแบรนด์แฟชั่นที่ได้รับความรักในหมู่ผู้บริโภคทุกวัย
Topshop แบรนด์แฟชั่นชื่อดังจากสหราชอาณาจักร เตรียมกลับมาเปิดตัวอีกครั้งบนถนนสายหลักในร้าน John Lewis จำนวน 32 ร้านทั่วประเทศตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2026 ขณะที่แบรนด์เสื้อผ้าผู้ชาย Topman จะมีวางจำหน่ายใน 6 ร้าน John Lewis ด้วย นับเป็นการกลับมาที่สำคัญหลังจากหายไปจากถนนสายหลักมากว่า 5 ปี โดยความร่วมมือนี้เกิดขึ้นหลังจาก Topshop ถูกซื้อกิจการโดยผู้ค้าปลีกออนไลน์ Asos และต่อมาก็ได้ถูกขายให้กับมหาเศรษฐีค้าปลีกแดนโคนม Anders Holch Povlsen ซึ่งขณะนี้ Topshop กำลังอยู่ระหว่างการฟื้นตัวครั้งใหญ่
Michelle Wilson กรรมการผู้จัดการของ Topshop และ Topman ระบุว่าลูกค้ายังอยากเห็นแบรนด์กลับมาในร้านค้าจริง และเป้าหมายของบริษัทคือการทำให้แบรนด์แพร่หลายไปทั่วประเทศ ขณะที่ John Lewis ก็หวังว่าการนำเสนอแฟชั่นที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้นจะช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ เข้าไปในร้าน
แม้ Topshop จะเคยประสบปัญหาระหว่างช่วงโควิด-19 และแนวโน้มการช็อปปิ้งออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น แต่การจับมือกับ John Lewis ถือเป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาด ทั้งนี้ John Lewis จะจัดวางสินค้า Topshop ในตำแหน่งสำคัญภายในร้าน นับว่าเป็นการส่งสัญญาณที่ดีในการฟื้นฟูแบรนด์แฟชั่นอันทรงอิทธิพลที่มีฐานลูกค้าหลากหลายวัย ซึ่งรวมถึงคนรุ่นใหม่และกลุ่มลูกค้าที่มีความจงรักภักดีต่อแบรนด์
สำหรับคนไทยที่สนใจแฟชั่นและแบรนด์ดังระดับโลก เทรนด์การกลับมาของ Topshop นี้นอกจากจะแสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวของตลาดแฟชั่นยุโรปหลังโควิด-19 แล้วยังเป็นโอกาสที่น่าสนใจในการติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดแฟชั่นและค้าปลีกระหว่างประเทศ ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อความนิยมและแนวโน้มแฟชั่นในตลาดไทยในอนาคตได้อีกด้วย
คำชี้แจง
เนื้อหาบนเว็บไซต์นี้สร้างขึ้นโดย ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และได้รับการตรวจสอบความถูกต้องจากระบบ AI ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลและงานวิจัยล่าสุดแบบ Real-time อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลในการทำความเข้าใจข้อมูลทุกครั้ง ไม่ว่าเนื้อหานั้นจะถูกสร้างโดยมนุษย์หรือ AI ก็ตาม
ทีมงาน NowTrd.com มุ่งมั่นที่จะใช้ AI เป็นเครื่องมือเพื่อมอบข้อมูลที่มีคุณภาพและสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนแก่ผู้อ่านทุกท่านอย่างมีความรับผิดชอบต่อความถูกต้อง หากพบข้อผิดพลาดหรือจุดบกพร่องใดๆ โปรดแจ้งให้เราทราบที่ [email protected] เพื่อร่วมพัฒนาเนื้อหาให้ดียิ่งขึ้น
ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจ