– ราคาหุ้นธนาคารใหญ่ในอังกฤษ เช่น NatWest, Lloyds และ Barclays ตกลงอย่างมากหลังข่าวข้อเสนอเก็บภาษีกำไรจากรัฐบาล
– สถาบันวิจัย IPPR เสนอเก็บภาษีจากกำไรธนาคาร เพื่อชดเชยความเสียหายจากมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณที่รัฐอังกฤษใช้
– ข้อเสนอนี้อาจกระทบถึงการลงทุนและความเชื่อมั่นในภาคการเงิน แต่ยังไม่มีการตอบรับจากรัฐบาลอังกฤษอย่างเป็นทางการ
ราคาหุ้นของธนาคารชั้นนำในอังกฤษ ได้แก่ NatWest, Lloyds และ Barclays ได้ร่วงลงอย่างรวดเร็วหลังมีข้อเสนอจากสถาบันวิจัย Institute for Public Policy Research (IPPR) ให้รัฐบาลอังกฤษพิจารณาเก็บภาษีกำไรจากธนาคารเพื่อเพิ่มรายได้เข้ารัฐถึง 8 พันล้านปอนด์ต่อปี ข้อเสนอนี้สืบเนื่องมาจากผลกระทบของมาตรการนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing) ซึ่งเป็นการที่ธนาคารกลางอังกฤษซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพื่อสนับสนุนระบบการเงินในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ แต่กลับสร้างผลกำไรส่วนเกินแก่ธนาคารพาณิชย์ โดย IPPR มองว่าเป็นการโอนภาระภาษีจากประชาชนไปยังธนาคาร
ราคาหุ้นของ NatWest และ Lloyds ลดลงกว่า 4% ในช่วงเช้าวันศุกร์ก่อนการตลาดเปิด ส่วน Barclays มีการลดลงมากกว่า 3% ซึ่งเป็นผลจากความกังวลของนักลงทุนว่าอาจมีภาษีกำไรเพิ่มเติมต่อภาคธนาคาร ซึ่งสอดคล้องกับคำเตือนจากผู้บริหาร Lloyds ที่แสดงความกังวลต่อการขึ้นภาษีที่จะส่งผลกระทบกับการเติบโตของภาคการเงิน
สำหรับตลาดไทย ภาคธนาคารและการเงินมีความเชื่อมโยงกับตลาดโลก แม้จะยังไม่มีผลตรงจากนโยบายนี้ แต่สถานการณ์ในอังกฤษสามารถส่งผลต่อความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยและอัตราดอกเบี้ย รวมถึงการลงทุนระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนในตลาดยุโรปและสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญของไทย
นักวิเคราะห์เตือนว่านโยบายนี้อาจทำให้ธนาคารในอังกฤษมีต้นทุนทางภาษีที่สูงขึ้น ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อนั้นอาจปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งก็จะมีผลกระทบต่อการให้สินเชื่อของธนาคารต่อภาคธุรกิจและประชาชน การเปลี่ยนแปลงนี้จึงเป็นประเด็นที่นักลงทุนและผู้บริโภคในไทยควรจับตามอง
โดยขณะนี้ รัฐบาลอังกฤษยังไม่ได้แถลงตอบรับข้อเสนออย่างเป็นทางการ แต่เรื่องนี้เป็นตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นถึงความพยายามในการหาทางเพิ่มรายได้ของรัฐจากภาคธุรกิจขนาดใหญ่ในยุโรป ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่ารัฐบาลไทยอาจต้องศึกษาความเหมาะสมในบริบทของประเทศไทยด้วย เพื่อเตรียมรับมือและวางนโยบายการเงินและภาษีต่อไป