– ต้นทุนการกู้ยืมระยะยาวของรัฐบาลสหราชอาณาจักรสูงสุดในรอบ 27 ปี สร้างแรงกดดันต่อ ราเชล รีฟส์ ในการเตรียมงบประมาณฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้
– คาดการณ์ว่า รีฟส์ อาจต้องเพิ่มภาษีมากถึง 20-30 พันล้านปอนด์เพื่อเสริมความมั่นคงทางการเงินของรัฐบาล
– ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลงกว่าร้อยละ 1 เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินและการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงไทย
ต้นทุนการกู้ยืมระยะยาวของรัฐบาลสหราชอาณาจักรในพันธบัตร 30 ปี พุ่งขึ้นถึง 5.698% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 27 ปี เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจทั้งในประเทศและระดับโลก โดยเฉพาะหนี้รัฐบาลที่เพิ่มขึ้นส่งผลต่อต้นทุนการเงินสำหรับภาครัฐอย่างมาก ซึ่งประชุมงบประมาณฤดูใบไม้ร่วงที่กำลังจะมาถึง รัฐมนตรีคลัง ราเชล รีฟส์ ต้องเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักในการหารายได้เสริมจากภาษีเพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินของประเทศ
การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อตลาดเงินและตลาดทุนทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ค่าเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงมากกว่าร้อยละ 1 เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอาจกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศไทยที่มีการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการกับสหราชอาณาจักร
สำหรับประเทศไทย การเปลี่ยนแปลงในต้นทุนการกู้ยืมของสหราชอาณาจักรและความผันผวนของค่าเงินปอนด์ อาจส่งผลกระทบต่อตลาดส่งออกและการลงทุน นักลงทุนไทยที่มีความสนใจในตลาดสหราชอาณาจักรควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการค้าผลิตภัณฑ์อาหารและสินค้าเทคโนโลยีซึ่งมีความสัมพันธ์ทางการค้าที่ใกล้ชิดกับสหราชอาณาจักร
ด้าน ราเชล รีฟส์ มีแนวโน้มที่จะต้องเพิ่มภาษีมากถึง 20-30 พันล้านปอนด์ เพื่อลดภาระหนี้ของรัฐบาล และต้องผ่อนคลายนโยบายทางการคลังบางข้อเพื่อรองรับต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้น นอกจากนี้ เธอยังต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันทางการเมืองและเศรษฐกิจในประเทศที่เพิ่มขึ้น ทำให้การวางแผนงบประมาณในครั้งนี้เป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างยิ่ง
โดยรวมแล้ว สถานการณ์ต้นทุนการกู้ยืมที่เพิ่มขึ้นนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อสหราชอาณาจักรเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณเตือนสำหรับประเทศที่มีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้ากับสหราชอาณาจักร รวมถึงประเทศไทยด้วยที่ต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในตลาดโลกอย่างรอบคอบ
คำชี้แจง
เนื้อหาบนเว็บไซต์นี้สร้างขึ้นโดย ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และได้รับการตรวจสอบความถูกต้องจากระบบ AI ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลและงานวิจัยล่าสุดแบบ Real-time อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลในการทำความเข้าใจข้อมูลทุกครั้ง ไม่ว่าเนื้อหานั้นจะถูกสร้างโดยมนุษย์หรือ AI ก็ตาม
ทีมงาน NowTrd.com มุ่งมั่นที่จะใช้ AI เป็นเครื่องมือเพื่อมอบข้อมูลที่มีคุณภาพและสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนแก่ผู้อ่านทุกท่านอย่างมีความรับผิดชอบต่อความถูกต้อง หากพบข้อผิดพลาดหรือจุดบกพร่องใดๆ โปรดแจ้งให้เราทราบที่ [email protected] เพื่อร่วมพัฒนาเนื้อหาให้ดียิ่งขึ้น
ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจ