– เพดานราคาพลังงานของอังกฤษในไตรมาสสุดท้ายของปี 2025 ปรับขึ้น 2% ส่งผลต่อต้นทุนค่าก๊าซและไฟฟ้าของครัวเรือนทั่วไป
– ครัวเรือนทั่วไปอังกฤษใช้พลังงานเฉลี่ย 11,500 กิโลวัตต์ชั่วโมงก๊าซและ 2,700 กิโลวัตต์ชั่วโมงไฟฟ้าต่อปี ซึ่งส่งผลต่อต้นทุนการใช้พลังงานที่สูงขึ้น
– ไทยซึ่งพึ่งพาการนำเข้าพลังงานและเป็นตลาดพลังงานที่กำลังขยายตัว อาจต้องเผชิญกับแรงกดดันต้นทุนและต้องจับตานโยบายพลังงานของสหราชอาณาจักรและโลกอย่างใกล้ชิด
สหราชอาณาจักรได้ประกาศปรับขึ้นเพดานราคาพลังงาน (energy price cap) สำหรับไตรมาสที่ 4 ของปี 2025 ขึ้น 2% ซึ่งหมายความว่าค่าบริการก๊าซและไฟฟ้าสำหรับครัวเรือนทั่วไปที่ใช้พลังงานตามเกณฑ์จะสูงขึ้น การปรับนี้ทำให้ค่าพลังงานประจำปีสำหรับครัวเรือนที่ใช้ก๊าซ 11,500 กิโลวัตต์ชั่วโมงและไฟฟ้า 2,700 กิโลวัตต์ชั่วโมง อยู่ที่ประมาณ 1,755 ปอนด์ ต่อปี หรือเพิ่มขึ้นราว 35 ปอนด์จากไตรมาสก่อน โดยเพดานราคานี้ถูกกำหนดโดย Ofgem หน่วยงานกำกับดูแลพลังงานของอังกฤษ ซึ่งมีผลบังคับใช้กับครัวเรือนราว 20 ล้านหลังในอังกฤษ เวลส์ และสกอตแลนด์
สำหรับประเทศไทย การเปลี่ยนแปลงราคาพลังงานของอังกฤษอาจส่งผลทางอ้อม เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่มีการนำเข้าพลังงานและก๊าซธรรมชาติเพื่อใช้ในประเทศ แม้ตลาดพลังงานและการกำกับดูแลจะต่างกัน แต่แรงกดดันด้านต้นทุนพลังงานในระดับโลก รวมถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายในประเทศพัฒนาแล้วอย่างอังกฤษ จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มราคาพลังงานในไทย ทั้งนี้ ไทยกำลังพัฒนาแหล่งพลังงานสะอาดและระบบโครงข่ายไฟฟ้าแบบผสมผสานเพื่อเพิ่มความมั่นคงทางพลังงานและลดต้นทุนในระยะยาว
นอกจากนี้ ยังมีการปรับเปลี่ยนในเรื่องของค่าใช้จ่ายคงที่ (standing charges) และการจัดการกับลูกค้าระบบมิเตอร์จ่ายก่อน (prepayment meters) ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีส่วนเพิ่มหรือลดภาระค่าพลังงานของผู้ใช้ในอังกฤษ ขณะที่มาตรการช่วยเหลือด้านพลังงานเช่น กองทุนสนับสนุนครัวเรือน (Household Support Fund) และโครงการ Warm Home Discount ยังมีผลต่อความช่วยเหลือแก่กลุ่มประชากรที่เปราะบาง
ภาพรวมนี้เป็นประเด็นที่ผู้บริโภคและผู้ประกอบการในไทยซึ่งเกี่ยวข้องกับพลังงาน ควรติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของตลาดพลังงานโลกและผลกระทบเศรษฐกิจในประเทศ รวมถึงการปรับตัวการบริโภคพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
คำชี้แจง
เนื้อหาบนเว็บไซต์นี้สร้างขึ้นโดย ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และได้รับการตรวจสอบความถูกต้องจากระบบ AI ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลและงานวิจัยล่าสุดแบบ Real-time อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลในการทำความเข้าใจข้อมูลทุกครั้ง ไม่ว่าเนื้อหานั้นจะถูกสร้างโดยมนุษย์หรือ AI ก็ตาม
ทีมงาน NowTrd.com มุ่งมั่นที่จะใช้ AI เป็นเครื่องมือเพื่อมอบข้อมูลที่มีคุณภาพและสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนแก่ผู้อ่านทุกท่านอย่างมีความรับผิดชอบต่อความถูกต้อง หากพบข้อผิดพลาดหรือจุดบกพร่องใดๆ โปรดแจ้งให้เราทราบที่ [email protected] เพื่อร่วมพัฒนาเนื้อหาให้ดียิ่งขึ้น
ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจ