เทรดเดอร์ส่วนใหญ่โฟกัส “เข้าให้แม่น”
แต่สิ่งที่ทำให้รอดจริงคือ “คุม Risk ให้เป็นระบบ”
เข้าแม่นแค่ไหนก็พังได้ ถ้าล็อตพาไปพัง
เข้าไม่แม่นมากก็อยู่รอดได้ ถ้าผิดแล้วไม่ตาย
โดยเฉพาะ XAUUSD ที่สวิงแรง + wick โหด
ถ้าไม่มีลูปคุมความเสี่ยง การเทรดจะกลายเป็นการเดา แล้วใช้เงินพนันกับอารมณ์แบบเนียน ๆ
บทความนี้คือ 4 ขั้น ที่ทำให้ “ทุกไม้” อยู่ในกรอบเดียวกัน
เทรดแล้ววัดผลได้ ปรับปรุงได้ และไม่หลุดวินัยง่าย
ภาพรวม: Risk-Based Trading Loop
1) Define Risk → 2) Size Position → 3) Execute → 4) Evaluate
จำไว้แบบสั้นสุด:
Risk มาก่อนกำไร
เพราะกำไรไม่มีวันเสถียร ถ้า Risk ไม่เสถียร
1) Define Risk: กำหนดความเสี่ยงก่อนคิดกำไร
มือใหม่มักเริ่มจาก “อยากได้กี่บาท”
คนรอดเริ่มจาก “ยอมเสียได้เท่าไหร่”
ก่อนกดเข้าไม้ ต้องตอบให้ได้ 3 อย่างนี้:
- Risk ต่อไม้ = เสี่ยงกี่ % ของพอร์ต (เช่น 0.5% หรือ 1%)
- Stop Loss (SL) = อยู่ตรงไหน (วางตามโครงสร้าง ไม่ใช่วางตามใจ)
- Max Loss ต่อวัน/สัปดาห์ = ถึงแล้วหยุดจริง (Daily/Weekly Loss Limit)
กติกาที่ใช้ได้ทุกสไตล์:
ถ้ายังตอบไม่ได้ว่า “แพ้แล้วเสียเท่าไหร่” = ยังไม่มีแผนเทรด
ในทอง ความผิดพลาดส่วนใหญ่ไม่ใช่ทิศทาง
แต่คือ “ปล่อยให้ความเสี่ยงล้นมือ”
2) Size Position: คำนวณล็อตจาก Risk ไม่ใช่จากความมั่นใจ
นี่คือจุดที่พอร์ตแตกบ่อยที่สุด
คนส่วนใหญ่เลือกล็อตจาก:
- วันนี้มั่นใจ
- setup สวย
- อยากเอาคืน
- อยากให้ได้เยอะ
Risk-Based Trading เลือกล็อตจาก:
ความเสี่ยงที่กำหนดไว้ + ระยะ SL
หลักคิดที่ต้องเข้าใจ:
- SL กว้าง → ล็อตต้องเล็ก
- SL แคบ → ล็อตเพิ่มได้ (แต่ยังอยู่ใน Risk เท่าเดิม)
เป้าหมายของขั้นนี้คือทำให้
แพ้ 1 ไม้ = เสียหายเท่าเดิมเสมอ
ไม่ใช่แพ้บางไม้เล็ก บางไม้ใหญ่จนพอร์ตช็อก
ถ้าล็อตแกว่งตามอารมณ์
พอร์ตจะโดน “ไม้เดียวจบ” ได้ตลอด โดยเฉพาะทอง
3) Execute: เข้าไม้ตามแผน ไม่ตามแท่ง
Execute ที่ดีไม่ใช่ “เข้าแล้วถูก”
แต่คือ “ทำตามกติกาเดิม” ได้ แม้ตลาดจะยั่วแค่ไหน
Checklist สั้น ๆ ก่อนกดเข้า:
- นี่คือ A-Setup จริงไหม
- SL/TP ชัดไหม
- RR อยู่ในมาตรฐานตัวเองไหม (เช่น ≥ 2R หรือ 3R)
- ช่วงเวลาตลาดเหมาะไหม (ข่าว/ความผันผวน/สภาพคล่อง)
กติกาที่กันพอร์ตแตกได้แรงมาก:
- ห้ามเลื่อน SL เพื่อขอให้รอด
- ห้ามเพิ่มล็อตกลางทางเพื่อเร่งกำไร
- หลุดแผน = ถือว่าผิดวินัย แม้กำไร
เพราะกำไรจากความหลุดวินัย คือกำไรที่ “พาเราไปทำซ้ำจนพัง” ในที่สุด
4) Evaluate: วัดผลด้วย R และวินัย ไม่ใช่วัดด้วยบาท
เทรดเดอร์จำนวนมากประเมินตัวเองผิด เพราะดูแค่ “เงิน”
แต่เงินขึ้นอยู่กับล็อต และล็อตมักขึ้นอยู่กับอารมณ์
ถ้าอยากพัฒนาจริง ให้ประเมิน 2 อย่างนี้:
- R-multiple (กำไร/ขาดทุนเป็นกี่ R)
- Discipline Score (ทำตามแผนครบไหม)
ตัวอย่างที่ทำให้คิดถูก:
- ได้ +2R แต่หลุดแผน = วินัยต่ำ (ระยะยาวพังได้)
- ได้ -1R แต่ทำตามแผนเป๊ะ = วินัยสูง (ระยะยาวรอด)
การวัดผลแบบนี้ทำให้เรา “โตจากระบบ” ไม่ใช่โตจากดวง
Mini Loop ที่ใช้ได้ทุกวัน (เขียนไว้ก่อนเริ่มเทรด)
ก่อนเริ่มวันเทรด เขียน 4 บรรทัดนี้ไว้เลย:
- Risk ต่อไม้ = __%
- Max Loss วันนี้ = __R หรือ __%
- เข้าได้เฉพาะ A-Setup
- จบวันสรุปเป็น R + วินัย
แค่นี้ก็ลดการเทรดตามอารมณ์ได้เยอะมาก
เพราะสมองไม่ต้อง “คิดใหม่ทุกไม้”
ใช้กับสายข่าว / สายเทคนิคยังไง
สายข่าว
Define Risk ให้เข้มกว่าเดิม เพราะ spread/slippage/wick โหด
Size เล็กลงช่วงข่าว = อยู่รอดมากขึ้น
ข่าวไม่ได้ผิด แต่ความเสี่ยงตอนข่าวมันสูงกว่าปกติ
สายเทคนิค
SL ต้องวางตามโครงสร้าง และต้องยอมรับว่าโดนกวาดได้
เพราะ SL ที่ถูกต้องไม่ได้แปลว่าไม่โดนกวาด
มันแปลว่า “โดนกวาดแล้วไม่ตาย” และยังอยู่ในเกมต่อได้
ลูปนี้ทำให้ “ไม้ไหนก็ไม่ทำร้ายพอร์ต”
Risk-Based Trading Loop คือวงจรที่กันความห้าว กันความมั่นใจปลอม และกันการแก้ไม้มั่ว
สรุปสั้นที่สุด:
Define Risk ก่อนทุกครั้ง → Size ให้พอดี → Execute ตามแผน → Evaluate ด้วย R
ถ้าอยากเทรด XAUUSD แบบนิ่งขึ้น อยู่รอดขึ้น
เริ่มจากลูปนี้ก่อน ไม่ต้องเริ่มจากระบบที่ซับซ้อน




